อัจฉริยะพาครูร้องกองปราบอดีต ผอ.ส่อทุจริต 'อาหารกลางวัน'
อดีต ผอ.โรงเรียนอนุบาลเก็บเงินค่า 'อาหารกลางวันครู' เดือนละ 1,400 บาทแต่ดันให้กินข้าว 'โครงการอาหารกลางวันของเด็ก' เงินกองทุนผู้ปกครอง
วันที่ 18 ก.ย.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจ นายอัจฉริยะ พากลุ่มตัวแทนครูและผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เดินทางมายัง กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาล และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครสวรรค์ ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต
วันนี้ตัวแทนของผู้ปกครองรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนมีนโยบายการเรียกเก็บเงินค่าอาหารกลางวันจากครู คนละ 1,400 บาทต่อเดือน แต่จัดอาหารกลางวันให้ครูรับประทานรวมอยู่กับอาหารในโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน แล้วนำเงินค่าอาหารกลางวันที่เก็บจากครูไปใช้รวมกับโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนและนำเงินที่เรียกเก็บบางส่วนจากครูไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และไม่มีการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการอาหารกลางวันของครูและนักเรียนให้สามารถตรวจสอบได้
นอกจากนี้ยังพบว่าทางโรงเรียนมีเงินกองทุนจากสมาคมผู้ปกครอง ที่มีการบริจาคเพื่อใช้สำหรับพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนโครงการห้องเรียนพิเศษของโรงเรียน เงินที่ได้รับไปในนาม ผู้อำนวยการโรงเรียน รวมเป็นเงินมากกว่า 8 ล้านบาท ถือเป็นรายได้ของสถานศึกษาที่ไม่ต้องนำส่งคลัง แต่อดีต ผอ.โรงเรียน เป็นผู้สั่งการให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2565 ถึง เดือนกรกฎาคม 2566 รวมการจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน 39 ครั้ง ซึ้งอดีต ผอ.เป็นผู้จัดทำเอกสารจัดซื้อจัดจ้างเองทั้งหมดตั้งแต่การจัดพิมพ์เอกสารการจัดซื้อจัดจ้าง การจัดหาผู้ขายและผู้รับจ้าง และการจ่ายเงิน การจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวถือว่าดำเนินการด้วยเงินงบประมาณ ซึ่งตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ที่กำหนดว่าเป็นเงินที่รวมถึงเงินซึ่งหน่วยงานของรัฐได้รับไว้โดยไม่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมาย ต้องจัดซื้อจัดจ้างตามที่กฎหมายระเบียบกำหนด แต่การจัดซื้อจัดจ้างของ อดีต ผอ. ต่างกรรมต่างวาระรวม 39 ครั้ง ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างแต่ประการใด
กลุ่มครูและผู้ปกครองจึงได้ไปร้องเรียน ไปยัง ผอ.สำนักงานเขตการศึกษาฯ ทาง ผอ. สำนักงานเขตการศึกษา ทำได้เพียงมีคำสั่งให้อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ ไปช่วยราชการที่โรงเรียนอื่น โดยละเว้นการตั้งกรรมการสอบเรื่องร้องเรียน การกระทำของครูในโรงเรียนเห็นว่า ผอ.สำนักงานเขตการศึกษาจึง ส่อไปในทางให้การช่วยเหลือนายอดีต ผอ.โรงเรียน ให้พ้นผิด จึงมาร้องทุกข์
ทางด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า ตนเองได้ประสาน พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อจะพา ตัวแทน ครูและผู้ปกครอง ไปร้องเรียนในเรื่อง ที่เกิดขึ้น