ข่าว

'ดีเอสไอ' รวบ กก.บริษัท 'วิคตอเรียซีเครท' หนีหมายจับ 'ค้ามนุษย์' นาน 5 ปี

'ดีเอสไอ' รวบ กก.บริษัท 'วิคตอเรียซีเครท' หนีหมายจับ 'ค้ามนุษย์' นาน 5 ปี

22 ก.ย. 2566

"ดีเอสไอ" สนธิกำลังกับตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน รวบกรรมการบริษัท ทำหน้าที่บริหารจัดการ อาบ อบ นวด "วิคตอเรีย ซีเครท" ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ฯ

22 ก.ย. 2566 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำกำลังชุดปฏิบัติการ สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จับกุม นายบรมเดช (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดีเกี่ยวกับ สถานบริการ อาบ อบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 26 มี.ค.2561 คดีพิเศษข้อหา กระทำความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีฯ,ร่วมกันเป็นธุระจัดหาฯ, ร่วมกันเป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี, ผู้ดูแลหรือผู้จัดการการค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณีหรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี มีเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีทำการค้าประเวณีอยู่ ,ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

ดีเอสไอ รวบผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้ามนุษย์  วิคตอเรีย ซีเครท

 

 

โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวนสะกดรอย ติดตามและสืบสวนมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2566 สามารถจับกุมตัวนายบรมเดช ได้ในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน


สืบเนื่องจาก ดีเอสไอ รับแจ้งจากมูลนิธิพิทักษ์สตรี  ประสานขอความช่วยเหลือเด็กหญิงสัญชาติเมียนมาว่า เมื่อเดือน ก.ค. 2557 ขณะผู้เสียหายอายุ 12 ปีเศษ ถูกกลุ่มเอเย่นต์หรือนายหน้า นำพาไปทำงานขายบริการทางเพศที่สถานบริการ อาบ อบ นวด วิคตอเรีย ซีเครท กรุงเทพมหานคร เป็นเวลาประมาณ 2 ปีจากนั้นในเดือน พ.ค. 2559 นายหน้าได้ส่งเด็กหญิงเมียนมา คนดังกล่าวไปขายบริการบริการทางเพศที่ประเทศมาเลเซีย 

 

ต่อมาผู้เสียหายได้รับการช่วยเหลือกลับมาในไทย และดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งอัยการสูงสุดมอบหมายให้ดีเอสไอทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานอัยการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20

 

และเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2561 ดีเอสไอ พร้อมด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรเอกชนด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ สนธิกำลัง ตรวจค้นสถานบริการ อาบ อบ นวด วิคตอเรีย ซีเครท พบหญิงบริการสัญชาติเมียนมา ลาว จีน รวม 113 คน

 

และพบพยานหลักฐานต่าง ๆ ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่เป็นบุคคลและนิติบุคคล รวม 17 ราย ได้จับกุมคนดูแล คนเชียร์แขก ผู้ขอต่อใบอนุญาตสถานบริการ คนนำพาข้ามมาเลเซีย จำนวน 6 ราย ดำเนินคดีตามกฎหมาย