ข่าว

14 ตำรวจงานเลี้ยงบ้าน 'กำนันนก' รับทราบข้อหา อีก 1 ติดภารกิจ

14 ตำรวจงานเลี้ยงบ้าน 'กำนันนก' รับทราบข้อหา อีก 1 ติดภารกิจ

28 ก.ย. 2566

ตำรวจงานเลี้ยงบ้าน 'กำนันนก' 14 นาย เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ส่วน 1 นาย ติดภารกิจ ขอรับทราบพรุ่งนี้ ด้านพนักงานสอบสวน เร่งสรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด

 

28 ก.ย. 2566 พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. ในฐานะโฆษกชุดสืบสวนคลี่คลายคดีกำนันนก เปิดเผยว่า กรณีเรียกตำรวจ 15 นาย ที่อยู่ในงานเลี้ยงบ้าน กำนันนก วันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา มารับทราบข้อหาในฐานความผิด ตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่
 

 

จากที่เรียกทั้ง 15 นาย แต่มาเพียง 14 นาย ที่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา โดย พ.ต.อ.กฤษฎาพร ผกก.สน.พญาไท ก็ได้เดินทางมาแล้ว ส่วนอีก 1 นาย ที่ไม่ได้เดินทางมาเนื่องจากติดภารกิจ และจะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันพรุ่งนี้ ( 29 ก.ย.) 

 

พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนคำให้การนั้นอยู่ในสำนวนไม่สามารถบอกได้ ส่วนกล้องวงจรปิด ตัวที่เสียภายในงานเลี้ยง ได้ส่งให้กับ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบแล้ว 

 

 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จำนวนตัวเลขของตำรวจที่ผิด ม.157 นั้นไม่ตรงกับ สำนวนของชุดพนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 7 ที่ดำเนินคดีกับตำรวจ 13 นาย (รวม ผกก.เบิ้ม) แต่เมื่อ กองบังคับการปราบปราม รับคดีมาแล้ว กลับแจ้ง ม.157 กลับมีตำรวจ 15 นาย  พ.ต.อ.วิวัฒน์ ชี้แจงว่า การพิจารณาต้องดูที่พฤติกรรมของตำรวจภายในงาน 3 พฤติกรรม คือ 1.มีการเข้าช่วยเหลือคนเจ็บทันทีหรือไม่ 2.มีการเข้าจับกุมคนร้ายทันทีหรือไม่ และ 3.มีพฤติการณ์เก็บรักษาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุหรือไม่ 

 

 

 

และในส่วนของ ผกก.เบิ้ม ที่มีภาพไปหยิบโทรศัพท์ที่รถนั้น ความจริงแล้วคือ ผกก.เบิ้ม ได้เข้าให้การช่วยเหลือ สารวัตรแบงค์ แล้ว แต่กลับลืมโทรศัพท์ไว้ที่รถ จึงวิ่งกลับไปหยิบ ประกอบกับไปเจอคนเจ็บอีกคน คือ พ.ต.ท.วศิน  จึงไปช่วยเหลือพาไปส่งโรงพยาบาล จึงทำให้บ่งชี้ว่าพฤติกรรมของ ผกก.เบิ้ม นั้นไม่ขาดเจตนาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 

 

 

 

หลังจากการสอบปากคำและแจ้งข้อหากับตำรวจทั้งหมด ทางพนักงานสอบสวนจะปล่อยตัวทั้งหมดกลับไป เนื่องจากตำรวจทั้งหมดได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเองไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงสามารถปล่อยตัวได้โดยที่ไม่ต้องใช้ประกันหลักทรัพย์ แต่หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีส่ง ป.ป.ช. เพื่อให้ชี้มูลความผิดต่อไป