ข่าว

'บิ๊กก้อง' ลั่นจัดการ 'รถบรรทุกน้ำหนักเกิน' คาดโทษ พื้นที่เมินบังคับใช้ กม.

'บิ๊กก้อง' ลั่นจัดการ 'รถบรรทุกน้ำหนักเกิน' คาดโทษ พื้นที่เมินบังคับใช้ กม.

27 ต.ค. 2566

"บิ๊กก้อง" พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เผยการเข้มงวดรถบรรทุกน้ำหนักเกิน จับผู้กระทำความผิด เพิ่มขึ้น 47% พร้อมคาดโทษ " ตำรวจทางหลวง" ในพื้นที่ หากไม่บังคับใช้กฎหมาย แล้วถูกจากส่วนกลางไปจับกุมได้ ผู้กำกับการและสารวัตรใหญ่สถานีนั้นต้องรับผิดชอบ

27 ต.ค. 2566 พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)  กล่าวถึงการดำเนินการกับกรณีส่วยรถบรรทุก ภายใน กองบังคับการตำรวจทางหลวงโดยพบว่าหลังจากที่เริ่มบังคับใช้กฎหมายจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา  สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดบรรทุกน้ำหนักเกินได้ 551 ราย และในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ถึงวันที่ 25 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมาสามารถจับกุมได้อีก  812 ราย สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดบรรทุกน้ำหนักเกินได้เพิ่มขึ้น 47%   รวมแล้วปัจจุบันสามารถจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้มากกว่า 1,363 รายแล้ว 

 

 

พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.)

 

 

พล.ต.ท.จิรภพ ยังอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่ายังมีผู้ประกอบการขนส่งสินค้าและรถบรรทุกยังคงไม่ยอมเลิกพฤติการณ์บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอยู่อีกหลายราย  ซึ่งตำรวจทางหลวงมีข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว และจะบังคับใช้กฎหมายจับกุมรถบรรทุกของผู้ประกอบการเหล่านี้ต่อไปและจะเริ่มการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ยังคงละเมิดกฎหมายบรรทุกน้ำหนักเกินเหล่านี้เพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการกับบุคคลเหล่านี้อย่างเข้มงวดที่สุด
 

 

 

บิ๊กก้องลั่นจัดการ รถบรรทุกน้ำหนักเกิน คาดโทษ พื้นที่เมินบังคับใช้ กม.

 

ส่วนกรณีของส่วยรถบรรทุกยืนยันว่าขณะนี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้เข้มงวดในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก

 

นอกจากนี้ยัง ได้ออกหนังสือคำสั่งแจ้งให้ผู้กำกับการ และสารวัตรใหญ่ ทุกสถานีตำรวจทางหลวง คาดโทษหากไม่บังคับใช้กฎหมายเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินในพื้นที่แล้วถูกตำรวจจากส่วนกลางไปจับกุมได้ ผู้กำกับการและสารวัตรใหญ่สถานีนั้นต้องรับผิดชอบ

 

 

บิ๊กก้อง ลั่นจัดการ รถบรรทุกน้ำหนักเกิน คาดโทษ พื้นที่เมินบังคับใช้ กม.

 

 

โดยอาจถูกให้ไปช่วยราชการหรือโทษทางวินัยอื่นๆ รวมถึงทางตำรวจยังได้ประสานงานไปยังการทางพิเศษแห่งประเทศไทยและกรมทางหลวงชนบทให้ร่วมตรวจสอบและจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินที่แอบหลีกเลี่ยงเข้าไปใช้เส้นทางในพื้นที่ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายกับพื้นผิวจราจรหรือโครงสร้างของทางพิเศษต่างๆ