ข่าว

'บิ๊กโจ๊ก' ช่วยเหลือ 162 คนไทยถูกนายทุนชาวจีนหลอกทำงาน "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

'บิ๊กโจ๊ก' ช่วยเหลือ 162 คนไทยถูกนายทุนชาวจีนหลอกทำงาน "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"

08 พ.ย. 2566

"บิ๊กโจ๊ก" ช่วยเหลือคนไทย 162 ราย ่ที่ถูกนายทุนหลอกเข้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ เผยยังเหลืออีก 74 รายเตรียมกลับไทยเร็วๆนี้

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.)

เปิดเผยความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทย ที่ถูกนายทุนชาวจีนหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ที่เป็นหนึ่งในฐานของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนที่ใช้คนไทยทำงานที่เป็นคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงเหยื่อในประเทศไทย 

หลังการหารือกับรัฐบาลเมียนมาเพื่อเร่งขอความช่วยเหลือคนไทยออกจากพื้นที่สู้รบ ล่าสุดสามารถช่วยคนไทยได้แล้ว 162 คน เหลือ 74 คน ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกจากตัวอาคารได้ เพราะถูกนายจ้างชาวจีนทำร้ายร่างกายบาดเจ็บาสาหัส จึงไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกมาได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดความสูญเสียระหว่างการเคลื่อนย้าย หากถูกโจมตี ส่วนเส้นทางการลำเลียงคนไทยออกจากพื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานจากทางเมียนมา ซึ่งอยู่ระหว่างกำหนดเส้นทางเคลื่อนย้ายเพื่อความปลอดภัย หากจำเป็นต้องอพยพคนไทยต้องไปผ่านเส้นทางในประเทศจีนก่อนก็ต้องทำ เพราะทุกชีวิตของคนไทยมีค่าจำเป็นต้องพากลับประเทศไทยก่อน เพราะตอนนี้สถานการณ์สู้รบในเมียนมารุนแรงไม่ต่างจากอิสราเอล คาดว่าภายในปลายสัปดาห์นี้ หากได้รับการติดต่อจากเมียนมา ว่าสามารถเคลื่อนย้ายคนไทยออกจากพื้นที่ได้หมดทุกคนแล้ว ตนก็จะเดินทางไปรับคนไทยกว่า 200 คนออกจากพื้นที่ยังจุดที่กำหนดไว้ 
 

 

 

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ในจำนวนคนไทยทั้งหมดนั้น มีทั้งผู้ที่สมัครใจไปทำงาน โดยที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นงานในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และมีบางส่วนที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกจริง ขณะนี้มีรายชื่อทั้งหมดแล้ว เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้วจะประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงแรงงานเพื่อดำเนินการสอบปากคำและร่วมกันคัดแยกต่อไป ทั้งนี้จะแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่สมัครใจไปทำงานที่พบว่ามีอยู่กว่าร้อยละ 70 เพราะมีรายชื่อว่าเคยถูกช่วยเหลือออกมาจากกัมพูชามาแล้วก่อนหน้านี้ และกลุ่มที่สองคือกลุ่มที่ถูกหลอกจริงๆ ซึ่งเป็นรายชื่อใหม่มีเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น โดยผู้ที่สมัครใจไปจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิด พ.ร.บ.องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ฐานมีส่วนในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด และความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เพื่อไม่ให้บุคคลเหล่านี้กลับไปก่อคดีอีก  และต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวงคนไทยด้วย ส่วนกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อนั้น จะได้รับการเยียวยาตามกฎหมาย