ข่าว

ผลตรวจลูกจ้างสาว 'ไม่พบสารเสพติด' สภาพจิตใจ 'ซึมเศร้า' เล็กน้อย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สถาบันนิติวิทยาศาสตรื แจ้งผลตรวจเส้นผมลูกจ้างสาว 'ไม่พบสารเสพติด' และ 'ไม่พบอาการจิตเวช' เตรียมเดินหน้าเอาผิดนายจ้างและคนหมิ่น

กรณีลูกจ้างสาว อายุ 21 ปี ขอความช่วยเหลือ "เพจสายไหมต้องรอด" หลังถูกนายจ้างเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นทำร้ายร่างกายมานานหลายปี โดยฝ่ายคู่กรณีมีการอ้างว่า ผู้เสียหายเสพยาเสพติดจนหลอน มีอาการจิตเวช ทำร้ายตัวเอง ไม่ใช่การถูกทำร้ายร่างกาย 

 

ซึ่งก่อนหน้านี้นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พาผู้เสียหายเข้าตรวจเส้นผม เพื่อหาสารเสพติดที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม 


ล่าสุดผลการตรวจออกแล้ว โดยนายกองตรี ดร ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯประจำรองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีการตรวจย้อนตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2565 จนถึงขณะนี้ "ไม่พบสารเสพติด หรือ สารแปลกปลอมอื่น"  

ดร.ธนสิริ ยกเชื้อ หัวหน้ากลุ่มตรวจพิสูจน์ทางเคมี สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผมของผู้เสียหายรายนี้มี ความยาว 10.3 เซนติเมตร จะแบ่งตรวจเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 3 เซนติเมตร ไม่พบสารเสพติดทั้ง 28 รายการที่แพร่ระบาดในประเทศไทย เช่น ยาบ้า ยาเค ยาอี ฝิ่น กระท่อม กัญชา ยานอนหลับ ยาแก้ปวด เป็นต้น 

 

ขณะที่ พ.ต.ท.เชน กาญจนาาปัจจ์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยผลการตรวจสภาพจิตใจว่า จากการให้ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชของสถาบันฯ พูดคุยและประเมินอาการเบื้องต้นและทำแบบประเมินทางจิตเวช พบว่าภาวะซึมเศร้าหรือการฆ่าตัวตายอยู่ในระดับ "น้อย" , ความเครียดระดับ "ปานกลาง" อยู่ในเกณฑ์คนปกติทั่วไป รวมถึงไม่พบอาการหูแว่ว , การแสดงสีหน้าและอารมณ์ สอดคล้องกับเรื่องที่เล่า ไม่มีภาวะหลอน ดังนั้นโดยภาพรวมผู้เชี่ยวชาญไม่พบความผิดปกติทางจิตเวช

 

ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนไม่มีสารเสพติดตามบอกตั้งแต่แรก รู้สึกดีใจที่สามารถพิสูจน์ตัวเองไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ไม่มีสารเสพติด ไม่ได้ทำร้ายตัวเอง สามารถเรียกความยุติธรรมคืนให้ตัวเอง หลังจากเป็นข่าวก็ไม่ได้พูดคุยกับนายจ้างอีก และไม่มีอะไรจะพูดถึง ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย นอกจากนี้ยังพบว่านายจ้างมีความพยายามจะโทรหาคนรอบข้างของตนเอง เพื่อให้มาขอให้ตนเองไม่เอาเรื่อง

ด้านนายเอกภพ ระบุว่า ไม่มีอาชญากรรมใดสมบูรณ์แบบ 100% ผู้ก่อเหตุมักทิ้งร่องรอยให้ค้นพบและตรวจสอบได้เสมอ ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่พวกเรารวมถึงผู้เสียหายต้องขอบคุณฯ สำนักนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่มอบหมายให้กองตรีดร ธนกฤต มาดูแล รวมถึงขอบคุณสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่ให้ความเป็นธรรมกับคนไทย วันนี้ชัดเจน วิทยาศาสตร์ยังคงเป็นที่พึ่งได้เสมอ คนโกหกได้ วิทยาศาสตร์โกหกไม่ได้ หลังจากนี้เดินหน้าเอาผิดคนที่ทำร้ายและร่วมโกหก ก็ต้องรับผิดชอบ 

 

ส่วนที่มีคำถาม ทำไมเหยื่อเพิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ ทั้งที่ถูกทำร้ายมาหลายปี นายเอกภพ กล่าวว่า เหยื่อเพิ่งกล้าลุกขึ้นมาเปิดเผยความจริง เพราะเค้ากลัวความคิดแช่นนี้ ดังนั้นพวกเราต้องปกป้องเหยื่อ ไม่ใช่ตั้งคำถาม เราไม่เป็นเหยื่อ เราไม่รู้ 

ผลตรวจลูกจ้างสาว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ