ปิดป่าล่า 'เสี่ยแป้ง นาโหนด' กระทบ ชาวมานิ เดือดร้อนเริ่มขาดแคลนอาหาร
เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังสกัด "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ทั้งทางเส้นทางเข้า-ออก ลาดตระเวณแนวเชิงเขา เริ่มส่งผลกระทบ "ชนเผ่ามานิ" จำนวน 35 คนในพื้นที่เริ่มขาดแคลนอาหาร เหตุเข้าป่าล่าสัตว์ไม่ได้
10 พ.ย. 2566 ความคืบหน้ากรณี นายชวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษชาย ที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. 2566 เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายระดมกำลังติดตามไล่ล่าจับกุม เสี่ยแป้ง นาโหนด ซึ่งหลบหนีอยู่บริเวณเทือกเขาบรรทัด ซึ่งล่าสุดมีการยิงปะทะกันบริเวณเทือกเขาบรรทัด เขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือพัทลุง สตูล ตรัง แต่ เสี่ยแป้ง สามารถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังปิดล้อม เส้นทางเข้า ออก เทือกเขาบรรทัด ซึ่งในส่วนของจ.สตูล นั้นมีพื้นที่ติดเขตแดน 3 จังหวัดอยู่ 2 แห่งคือบริเวณพื้นที่บ้านราวปลา ม. 9 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า และพื้นที่ถ้ำภูผาเพ็ชร ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล
โดยเฉพาะพื้นที่ อ.มะนัง นายเชษฐ บุตรรักษ์ นายอำเภอมะนัง ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง อ.มะนัง พร้อมด้วยกำนัน ต.ปาล์มพัฒนา ผช.ผญบ.ฝ่ายรักษาความสงบ ชุดชรบ.ร่วมกับจนท.ตำรวจสภ.มะนัง ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นยานพาหนะ ป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย
รวมทั้งสกัดกั้นและสแกนการเข้ามาของ เสี่ยแป้ง นาโหนด ที่อาจจะข้ามแดนมาด้าน จ.สตูล โดยตั้งจุดตรวจบริเวณศาลาเอนกประสงค์ บ้านปากคอกป่าพน ม.6 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการตั้งจุดตรวจจุดสกัดดังกล่าวเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจาก เสี่ยแป้ง ถือเป็นบุคคลอันตราย
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ร่วมกับป่าไม้ ที่ออกลาดตระเวณบริเวณเส้นทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด ด้านจ.สตูล ซึ่งเป็นชุดสนับสนุนการทำงานชุดไล่ล่าที่คาดว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการได้ตัวในเร็ววันนี้
ด้านนายโชคชัย หลิมมา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่9 เปิดเผยว่า ตนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาสั่งการให้เฝ้าระวังและคอยสอดส่องบุกคนแปลกหน้าที่เดินทางเข้าพื้นที่ นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังดูแลไม่ให้ชาวบ้านและกลุ่มชาวมานิ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ขึ้นเขาเพื่อล่าสัตว์ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายและอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่
ด้านนายไพโรจน์ ดำพลับ ชาวบ้าน ในหมู่ที่ 9 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ซึ่งเป็นผู้ดูแลกลุ่มชนเผ่ามานิ เปิดเผยว่า เนื่องจากมีคำสั่งห้ามชาวบ้านขึ้นเขาหาของป่า ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงกับกลุ่มชนเผ่ามานิที่มีอยู่ในพื้นที่ประมาณ 35 คน
เนื่องจากชนเผ่ามานิต้องออกหาอาหารหรือออกล่าสัตว์ทุกวัน เมื่อไม่ได้เข้าป่าก็ไม่มีอาหาร แต่ตนในฐานะผู้ดูและก็ได้เตรียมข้าวสารอาหารแห้งเอาไว้ให้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งปิดคดีนี้ให้ได้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อพี่น้องชนเผ่ามานิและชาวบ้านในพื้นที่
ชิดชนก พุดทอง จ.ตรัง