ตำรวจเชื่อ 'มือยิงอาชีวะ' ต่างสถาบัน เตรียมการและมีทักษะในการเอาตัวรอด
ตำรวจนครบาล 5 ระบุ 2 คนร้าย "ยิงอาชีวะ" ต่างสถาบัน มีการเตรียมการมา และมีทักษะในการเอาตัวรอด หวั่นหลักฐานถูกทำลาย ชี้ไม่ฟันธงฝีมือศิษย์เก่าหรือปัจจุบัน
13 พ.ย. 2566 พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (รรท.ผบก.น.5) เปิดเผยภายหลังประชุมชุดคลี่คลายคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มนักศึกษาอาชีวะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และ น.ส.ศิรดา หรือ ครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ถูกลูกหลงกระสุนพุ่งเจาะหน้าผากเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ว่าขณะนี้การรวบรวมพยานหลักฐานมีความคืบหน้าในระดับหนึ่ง พร้อมยืนยันย้ำว่า ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับเพราะยังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
จากเบาะแสที่เห็นตามที่มีข่าวในเบื้องต้น เชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุ 2 คน หากผู้ใดมีเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอย่างรวดเร็ว และต้องรอบคอบ ส่วนปมความขัดแย้งยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบันที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ตาม ส่วนเส้นทางหลบหนีตอนนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน รวมถึงตรวจสอบว่าตอนนี้ผู้ก่อเหตุยังอยู่ในพื้นที่หรือออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
สำหรับรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีการสวมป้ายทะเบียน แต่ยังไม่พบว่าป้ายทะเบียนดังกล่าวมีประวัติในระบบคดีอาชญากรรม พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบผู้ครอบครองทะเบียนรถคันดังกล่าว
เมื่อถามว่าตำรวจมีการให้ข่าวค่อนข้างระมัดระวังเป็นพิเศษ หมายความว่าผู้ก่อเหตุเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหรือไม่ และกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ยอมรับว่า ในอนาคตกลัวว่าจะมีการทำลายหลักฐานจริง หากผู้ก่อเหตุรู้แนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจแล้วจะทำลายพยานหลักฐาน ส่วนหลักฐานอื่นๆ ขณะนี้สามารถเก็บได้หลายส่วนแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ส่วนกล้องวงจรปิด จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการทำลายหลักฐานในส่วนนี้ รวมถึงเสื้อผ้าที่ผู้ก่อเหตุสวมใส่ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
และจากการสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้ง 3 คน เพื่อนคนเจ็บ ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับใครเนื่องจากเป็นรุ่นน้องปี 1 เพิ่งเข้ามา ส่วนรูปพรรณสันฐานของผู้ก่อเหตุนั้นจำไม่ได้ เพราะไม่รู้จักกันมาก่อน
ส่วนพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุที่มีข้อมูลว่า มีการเตรียมการดูลาดเลา วางแผน และล็อกเป้ากลุ่มคนเจ็บมาตั้งแต่ย่านพระราม 2 นั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเช่นกัน
ส่วนประเด็นที่ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเห็นสัญลักษณ์ต่างสถาบันแล้วลงมือก่อเหตุ โดยไม่มีความขัดแย้งส่วนตัว ยังไม่ตัดทิ้ง ตอนนี้ยังดูข้อมูลทุกส่วน ซึ่งเป็นไปได้ว่าทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างสถาบัน ความขัดแย้งส่วนตัว รวมถึงอาจจะเป็นการก่อเหตุตามค่านิยมความรุนแรงแบบเฉพาะกลุ่มในสถาบันก็ได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นฝีมือของศิษย์เก่าหรือศิษย์ปัจจุบัน รวมถึงอยู่ระหว่างส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานข้อมูลกับทางสถาบันการศึกษา
นอกจากนี้ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ยังยอมรับว่า มีการตั้งสมมติฐานว่าผู้ที่ก่อเหตุมีความชำนาญ และจากการตรวจสอบภาพวงจรปิด เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีทักษะในการเอาตัวรอด
นอกจากนี้ ในส่วนของหัวกระสุน ขณะนี้มีการตรวจพบในจุดเกิดเหตุ 1 หัว และมีการส่งตรวจที่ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจฯ เป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำไปเปรียบเทียบกับคดีเก่า ที่มีพฤติการณ์คล้ายกันคือเรื่องความขัดแย้งต่างสถาบัน ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีเก่าใดหรือไม่ ส่วนหัวกระสุนที่อยู่บนร่างผู้บาดเจ็บยังไม่สามารถผ่าออกได้ เพราะอยู่ในจุดสำคัญ