'ดำรงค์' เชื่อ 'เสี่ยแป้ง' ซุกป่าดิบชื้น มีสมุนชำนาญป่าช่วยเหลือ | คมชัดลึก

นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงภูมิประเทศเทือกเขาบรรทัดที่นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง" หลบหนีอยู่ว่า เป็นเทือกเขาที่เชื่อมต่อจังหวัดต่างๆ ไปถึงมาเลเซีย เชื่อมกันหมด มีลักษณะเป็นเทือกเขาหินปูนป่าดิบชื้น ป่าทึบ ไม่มีป่าโปร่งเหมือนภาคอีสาน รวมถึงยังมีชนเผ่าต่างๆและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาก็ต้องมานานแล้ว อดีตเป็นเหมือนที่สปก.ที่ชาวบ้านขึ้นไปปลูกยางพารา กว่าร้อยครอบครัว ต่อมามีชาวบ้านย้ายขึ้นไป 300-400 ครอบครัว สมัสที่ตนเป็นอธิบดีอุทยานแห่งชาติฯ เมื่อปี 55 ได้เข้าไปแก้ปัญหา ดังนั้นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจะยิ่งอยู่ไม่ได้ จึงไปเปิดยุทธการการตัดยางพารา ตอนนั้นเอาเจ้าหน้าที่ไป 2,000 นาย 3 ป่าไม้ เขตสุราษฎร์ธานีสงขลา นครศรีธรรมราช เข้าไปหยุดเส้นทางและขุดไม่ให้มีเส้นทางเข้า เกิดการต่อต้านจากชาวบ้านประมาณซัก 400-500 คน แต่ตนก็จัดการยางพาราที่แอบปลูกไปเยอะ เพราะคนมากขึ้น สัตว์ป่าก็อยู่ไม่ได้ อย่าลืมว่าบนนั้นยังมีสัตว์ป่าทั้งสมเสร็จเสือ กระทิง ช้าง 

ทั้งนี้ความยากลำบากของเจ้าหน้าที่ในการติดตามเสี่ยแป้ง เพราะไม่รู้จักภูมิประเทศ เป็นป่าดงดิบชื้นทึบตลอด ร่างกายไม่เอื้ออำนวยเพราะขึ้นลงเขาเห็นได้จากเหตุการณ์มีเจ้าหน้าที่โดนต่อต่อย และ อย่าลืมว่าการทำสวนยางในภาคใต้จะมีกระท่อมหรือขนำของชาวบ้านที่ไปกรีดยางพารา ต้องมีเสบียงอย่างน้อยก็ต้องมีข้าวกินหรืออาหารกระป๋อง 

นายดำรงค์พิเดชเชื่อว่าเสี่ยแป้งต้องมีคนติดตามอย่างน้อย 2 คนที่รู้จักภูมิประเทศบนเทือกเขาบรรทัด เป็นคนปะเหลียน เพราะคนที่เดินป่าจะรู้ดี คาดว่าเสี่ยแป้งจะหลบหนีลงทางตรัง หรืออาจจะลงทะเลไปประเทศที่ 3 หรืออาจจะหลบอยู่ในถ้ำ มีเพียงมาม่าหรืออาหารกระป๋องไปสัก 30 ชุดก็อยู่ได้หลาย 10 วัน เพียงนำน้ำในลำห้วยมาต้มก็อยู่ได้แล้ว

ส่วนที่ทำไมตอนนี้เจ้าหน้าที่ถึงยังไม่เจอตัวเสียแป้ง นายดำรงค์ กล่าวว่า ไม่เจอเพราะยาก การค้นหาประมาณ 50 เมตร ก็ไม่เจอแล้ว อาจจะหลบชายป่า กลางคืนก็กลับมาที่ขนำ และ ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนตระเวนจนกระทั่งกลางดึก เพราะกลางวันก็แย่แล้ว ช่วงเย็นและค่ำ จะมีทั้งฝนตก ทาก ดิน และตอบไม่ได้ว่าจะหลบอยู่ในป่าได้กี่วันเพราะปัจจุบันขึ้นอยู่กับอาหารที่จะเป็นตัวกำหนดอยู่ได้นานหรือไม่ 

"เชื่อว่าหากถ้าจะมอบตัวมอบไปนานแล้ว ไม่รอมาทนลำบาก แต่ใจผมคิดว่าเขาอาจจะไปอยู่ประเทศที่ 3 แล้ว แต่ไม่ใช่มาเลเซีย" นายดำรงค์กล่าว

ทั้งนี้จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่นั้น ไม่ทราบว่าเสี่ยแป้งบาดเจ็บหรือไม่ แต่หากบาดเจ็บ คนเดินป่าจะต้องมีครติดตามอย่างน้อย 2-3 คน คอยแบกหาม ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือหรือไม่ มองว่า ไม่ แต่เขาจำใจเช่น พิทักษ์ป่าไปเจอเสี่ยแป้งโดยบังเอิญ เขาก็ไม่กระโดดจับ เพราะเขาต้องตรงนั้ยเป็นอยู่ประจำ พี่น้องข้างบนเขาเต็มไปหมด 

สุดท้ายแล้ว เสี่ยแป้งจะมอบตัวหรือไม่ นายดำรงค์ เชื่อว่า "ไม่มอบตัว" เพราะเดินทางมาถึงขนาดนี้แล้ว ต้องหาทางไปประเทศที่ 3 ให้ได้ จะไปทางเรือทางบกต้องไปให้ได้ อาจจะไปทางประมงก็ได้ เพราะประมงไทยไปขึ้นฝั่งที่อินโดนีเซียจำนวนมาก อีกทั้งเสี่ยแป้งเป็นคนมีเงิน สมัยนี้ไม่จำเป็นต้องพกเงินไป แค่ให้ใครเปิดบัญชีที่ปลายทาง ก็สามารถโอนเข้ามาได้ หรือหากยังอยู่บนเขาบรรทัด อำนาจเงินจ้างได้หมด จ้างสมุนเดินป่าเพิ่มมากี่คนก็ย่อมได้