ข่าว

ผบ.ตร. เปิดโครงการ 'ลบประวัติ ล้างความผิด' คืนสิทธิให้ ปชช.แล้วกว่า 9.3 ล.คน

ผบ.ตร. เปิดโครงการ 'ลบประวัติ ล้างความผิด' คืนสิทธิให้ ปชช.แล้วกว่า 9.3 ล.คน

16 พ.ย. 2566

ผบ.ตร. เปิดโครงการ "ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน" 2 ปี ที่ผ่านมา คัดแยกบุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากรได้เพียง 3.7 ล้านคนจาก 13 ล้านคน คืนสิทธิให้ประชาชนได้ กว่า 9.3 ล้านคน

16 พ.ย. 2566 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)  ร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร., พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล แห่งศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ผู้แทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, ผู้แทนจากกรมการจัดหางาน, ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดงาน ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน 

 

ด้วยปัจจุบัน หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้ความสำคัญต่อการตรวจสอบประวัติของบุคคลจำนวนมาก เพื่อคัดกรองบุคคลเข้าทำงาน โดยประชาชนต้องแสดงผล การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ประกอบการสมัครงาน มีประชาชนจำนวนมาก ที่เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีอาญา แต่ศาลพิพากษายกฟ้อง พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่ยังมีประวัติอาชญากรรม อยู่ในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ทำให้ถูกตัดสิทธิ ไม่ได้รับการพิจารณาเข้าทำงาน ขาดโอกาส ทำให้ขาดรายได้ ซึ่งอาจทำให้ต้องก่ออาชญากรรม

 

 

ผบ.ตร. เปิดโครงการลบประวัติ คืนสิทธิให้ประชาชน

 

 

ดังนั้น ​​เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ในขณะนั้น จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในขณะนั้นจัดทำโครงการ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามีรายการที่ยังไม่เคยมีการรายงานผลคดีถึงที่สุด ในฐานข้อมูลกองทะเบียนประวัติอาชญากร จำนวนกว่า 13 ล้านรายการ

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงมีการประชุมเร่งรัดติดตามผลคดีถึงที่สุดเป็นประจำทุกเดือน ภายในระยะเวลา 1 ปีเศษ ทำให้สามารถลบหรือคัดแยกประวัติอาชญากรรม ให้แก่บุคคลที่เข้าหลักเกณฑ์ได้ จำนวนประมาณ 2 ล้านรายการ เทียบเท่ากับที่เคยทำมาตลอดระยะเวลา 10 ปี ก่อนเริ่มโครงการ

 

 

ผบ.ตร. เปิดโครงการลบประวัติ คืนสิทธิให้ประชาชน

 

 

ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  กำกับ ดูแล ปรับปรุง แก้ไขระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจ ไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ. 2561 โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกับศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปรับปรุงแก้ไขระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ. 2566 ซึ่งได้ลงนามและมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2566 ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 29 วรรคสอง ซึ่งเป็นไปตามหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ หรือ Presumption Of Innocence ว่าในคดีอาญาหากไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้สันนิษฐานว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิดโดยมีการปรับปรุง
 

 

 

ผบ.ตร. เปิดโครงการลบประวัติ คืนสิทธิให้ประชาชน

 

 

การจัดเก็บประวัติบุคคลออกเป็น 3 ทะเบียน ได้แก่

1.ทะเบียนประวัติผู้ต้องหา

2.ทะเบียนประวัติอาชญากร

3.ทะเบียนประวัติผู้กระทำความผิดที่มิใช่อาชญากร

 

และปรับปรุงหลักเกณฑ์การถอนประวัติ ออกจากฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร เป็น 9 ข้อ คือ

1.มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง

2.ยกฟ้อง

3.มีกฎหมายยกเลิกความผิดนั้น

4.ผู้เสพยาเสพติด ที่ผ่านการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ที่มีผลเป็นที่น่าพอใจ

5.ผู้ที่ได้รับการนิรโทษกรรม

6.มีกฎหมายล้างมลทิน

7.ได้รับการอภัยโทษ,

8.ไม่มีการกระทำความผิดซ้ำภายใน 20 ปี

9.ผู้ต้องหาเป็นเด็กหรือเยาวชน, มีคำพิพากษาใหม่ว่ามิใช่ผู้กระทำความผิด และคดีขาดอายุความ

 

เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลประวัติอาชญากรให้เป็นปัจจุบัน ผลการแบ่งทะเบียนในการจัดเก็บข้อมูล และหลักเกณฑ์การคัดแยกประวัติอาชญากรรมตามระเบียบนี้ ทำให้มีบุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากรเพียง 3,729,173 ราย จากทั้งหมด 13,051,234 ราย สามารถคืนสิทธิให้กับประชาชน จากโครงการนี้จำนวนกว่า 9.3 ล้านคน ในขณะเดียวกันยังสามารถใช้ข้อมูล เพื่ออำนวยความยุติธรรมในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ตามอำนาจหน้าที่ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อประโยชน์สุขของสังคมส่วนรวมและประเทศชาติ

 

 

โครงการ ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน

 

 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยถึงโครงการ ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน  ว่าช่วยคืนความเป็นธรรมให้ประชาชน ได้แล้ว 9.3 ล้านคน จากกว่า 13 ล้านคน ในช่วงปีที่ผ่านมา มองว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ในการจะไม่เสียสิทธิ เช่น โทษเมาแล้วขับ จะไม่ใช่อาชญากร แต่ในส่วนของบริษัทเอกชน แต่ละบริษัทมีหลักเกณฑ์ มาตรฐานในการรับคนทำงานไม่เหมือนกัน แต่ยอมรับว่าโครงการดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 100% แต่จะพยายามแก้ปัญหาให้คนได้รับสิทธิมากที่สุดในการกลับไปใช้ในชีวิตในสังคม

 

ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ปรับปรุงการให้บริการประชาชนในการตรวจสอบคุณสมบัติว่าเป็นผู้ที่อยู่ในโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชนหรือไม่ ผ่านเว็บไซต์ www.crd-check.com เมื่อท่านมีชื่ออยู่ในโครงการ หมายความว่าประวัติอาชญากรรมของท่าน ได้ถูกทำการคัดแยก และถอนประวัติเรียบร้อยแล้ว

 

 

เว็บไซต์ตรวจสอบคุณสมบัติ ในโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน