อดีตแม่ทีมผู้บริหารขายตรงแสบหลอกขาย 'แชร์ลูกโซ่' เสียหาย 5,000 ล้าน บาท
ศคอ.พาผู้เสียหายแจ้งความ ปคบ.เอาผิดบริษัทแสบซื้อใบอนุญาต 'ขายตรง มาบังหน้าทำแชร์ลูกโซ่ ใช้โฉนดที่ดินแทนสินค้า
ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธาน ศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ (ศคอ.) พาผู้เสียหายพร้อมตัวแทนผู้เสียหายและผู้บริโภคที่ร้องเรียน ศคอ. และองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่ (อตช.) ให้ตรวจสอบบริษัท ขายตรงแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ มีพฤติการณ์เป็นอาชญากรรมต่อเนื่อง
โดยเมื่อปี 2563 ผู้บริหารบริษัทขายตรงแห่งนี้เคยเป็นอดีตแม่ทีมให้แก่บริษัทขายตรงสินค้าประเภทข้าวสารรายใหญ่แห่งภาคอีสานชักชวนผู้คนลงทุนซื้อข้าวสารให้ปันผลสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และไม่จ่ายผลตอบแทน มูลค่าความเสียหายกว่า 4,000 ล้านบาท เป็นคดีความโด่งดัง หลังจากบริษัทขายข้าวสารนั้นล้มไป เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. วันนี้ได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ให้ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวว่าทำธุรกิจขายตรง ตามที่จดทะเบียนต่อ สคบ.หรือไม่ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.แชร์ พ.ศ. 2534 ,ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ มาตรา 14 และ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
น.ส.กฤษอนงค์ เปิดเผยว่า ต่อมากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวแตกตัวออกมาเปิดบริษัทขายตรงใหม่ ทำนิติกรรมการเงินอำพราง โดยใช้ใบอนุญาตขายตรงออกโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคบังหน้า ซื้อใบอนุญาตจดทะเบียนขายตรงจากบริษัทเก่า Take Over สร้างภาพชักชวนลงทุนในรูปแบบต่างๆ สร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ โครงการบ้าน คอนโด และที่สำคัญรับขายฝาก เน้นระดมเงิน แต่ต้องนำเงินที่ขายฝากได้มาลงทุนต่อกับทางบริษัทด้วย โดยได้ผลตอบแทนทุกๆ 10 วัน เดือนละ 12เปอร์เซ็นต์ ปีละ 144 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด และเพิ่มความเข้มข้นด้วยการให้สมาชิกนำเอาคอมมิชชั่นที่ได้จากการลงทุนมาเปิดวงแชร์วงละ 15 มือ
ล่าสุดเมื่อ 10 พ.ย. 66 ได้ประกาศไม่จ่ายผลตอบแทนทั้งหมดและทำการย้ายแพลตฟอร์มเปลี่ยนชื่อบริษัท ใหม่ เพื่อตัดวงจรล้มวงแชร์เดิม มาตั้งวงแชร์ใหม่เปิดบริษัทใหม่แทน ซึ่งทำมาแล้วหลายรอบ นับว่าเป็นการก่ออาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้น ศคอ.คาดว่าจะมีความเสียหายเฉพาะรอบนี้ รวมกว่า 5,000 ล้านบาท เบื้องต้นพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.รับแจ้งไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป