ตร. ทลายโรงงาน 'เครื่องสำอางเถื่อน' ผงะ คนงานใช้ไม้พายนั่งกวนครีมกับพื้น
ตำรวจบุกทลายโรงงาน "เครื่องสำอางเถื่อน" ผงะเจอคนงานใช้ไม้พายนั่งกวนครีมกับพื้น หลังลูกจ้างสาวร้องเพจดัง ถูกน้ำร้อนลวก แผลเหวอะหวะ เจ้าของโรงงานให้เงินช่วยแค่ 1,000 บาท ก่อนให้ออกจากงาน
7 ธ.ค. 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ร่วมกับ นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สน.บางมด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สืบนครบาล สน.บางมด และ อย. ร่วมกันจับกุมนายฐิติวัชร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี
โดยถูกแจ้งข้อหากระทำความผิด ดังนี้
บ้านเลขที่ 36/3 กับ 36/34
1.ขายเครื่องสำอางไม่จดแจ้งตามมาตรา 14 วรรคหนึ่ง ฝ่าฝืน ม.32(1) มีโทษตาม ม.78 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
2.ขายเครื่องสำอางที่ไม่มีฉลากภาษาไทย ไม่เป็นไปตามมาตรา22 วรรค2 (2) ฝ่าฝืน ม.32(4) มีโทษตาม ม.68 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บ้านเลขที่ 36/56
1.สถานที่ผลิตเครื่องสำอางปฏิบัติไม่สอดคล้องตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอาง พ.ศ.2561 ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 14 วรรคสาม มีบทลงโทษตามมาตรา 63 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
บ้านเลขที่ 36/57
1.พบการผลิตเครื่องสำอางปลอม ฝ่าฝืน ม.27(2) ประกอบม.29(1) และ (4) มีบทลงโทษตามม.75 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และม.76 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามลำดับ
2.ผลิตไม่ตรงตามที่จดแจ้ง ฝ่าฝืนม.26 มีบทลงโทษตามม.71 ต้องระวางโทษปรับสองหมื่นบาท
3.ฉลากแสดงข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ม.22 วรรคสอง (1) มีบทลงโทษตามม.67 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.ผลิตไม่จดแจ้ง ฝ่าฝืน ม.14 วรรคหนึ่ง มีบทลงโทษตามม. 62 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.ไม่มีฉลากภาษาไทย ฝ่าฝืนม.22 วรรคสอง (2) มีบทลงโทษตามม.68 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พร้อมตรวจยึดของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย
1.กะละมังผสมผลิตภัณฑ์ผิดกฏหมาย บรรจุของเหลวพร้อมนำไปบรรจุภัณฑ์ 11 ใบ
2.พร้อมอุปกรณ์การผลิต จำพวก ไม้พาย , กระบวย , กะละมัง และหม้อต้ม หลายรายการ
3.ผลิตภัณฑ์โลชั่นนวดฝ่าเท้า 83 แกลอน
4.ผลิตภัณฑ์น้ำหอม เจลอาบน้ำ ผิดกฏหมาย จำนวน 580 ขวด (ผลิตในบ้าน)
5.ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ 73 แกลอน
6.ผลิตภัณฑ์น้ำหอม 2,976 ชิ้น
สืบเนื่องจาก มีหญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่งขอความช่วยเหลือผ่านเพจดัง และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ว่าประสบอุบัติเหตุจากการทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ว่าถูกน้ำร้อนลวกจนทำให้เป็นแผลทั่วร่างกาย หลังเกิดเหตุเธอได้รับเงินเยียวยาจากนายจ้างเพียงแค่ 1,000 บาท และยังยื่นใบลาออกให้เธอเซ็นชื่อ ซึ่งปัจจุบันเธอยังไม่สามารถใช้ชีวิตเป็นปกติได้ และซึ่งผู้เสียหายมีลูกอ่อนเพียง 2 เดือน จึงได้ขอความช่วยเหลือมาที่ ผบช.น. ผ่านทางเพจชื่อดัง
พล.ต.ท.ธิติ เห็นสภาพบาดแผลแล้ว สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ให้ความช่วยเหลือ และจากการสืบสวนทราบว่าสภาพภายในโรงงานที่เกิดเหตุนั้นมีเป็นบ้าน 2 ชั้น จำนวน 5 คูหา สภาพคับแคบและไม่มีระบบป้องกันความปลอดภัยใดๆ และยังสืบทราบว่าเป็นโรงงานที่มีการลักลอบผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 6 ธ.ค. 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้นำกำลัง พร้อมหมายค้นศาลแขวงธนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย ในพื้นที่ แขวงจอมทอง เขตจอมทอง จ.กรุงเทพฯ พบของกลางผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฏหมายหลายรายการ โดยขณะเข้าตรวจค้นพบคนงานหลายคนกำลังนั่งเทผลิตภัณฑ์บรรจุลงแกลลอน ไม่สวมสิ่งป้องกันใดๆ กวนกับไม้พายกับพื้น สภาพสกปรก ต่างกับภาพที่แสดงตามสื่อโซเชียล ที่คนงานใส่ชุดขาวสวมหมวก ถุงมือยางกันสิ่งเจือปนผลิตภัณฑ์อย่างมีมาตรฐาน เรียกได้ว่าไม่ตรงปก
เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดของกลางหลายรายการ และจับกุมตัว นายฐิติวัชร์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางมด ดำเนินคดีตามกฏหมาย และจะประสานงาน หน่วยงานแรงงาน ดำเนินการต่อไป โดยในชั้นจับกุม นายฐิติวัชร์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมแจ้งว่าจะปรับแก้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ ผบช.น. ได้สั่งการด้วยตนเอง เพราะหากโรงงานเถื่อนแห่งนี้ไม่ถูกปราบปราม จะเป็นภัยต่อพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป อีกทั้งกระบวนการผลิต ก็ไม่ได้มาตรฐานมีความสกปรก และลูกจ้างในโรงงานก็ได้รับความเสี่ยงเพราะขาดอุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัย ทำให้มีลูกจ้างสาวเคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุจนเป็นแผลน้ำร้อนลวกตามร่างกาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงขอเตือนไปยังโรงงานเถื่อนอื่นๆ ที่ยังแอบผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานให้เลิกผลิตเพราะสร้างความเสียกายกับสังคม