เผยสาเหตุ 'บิ๊กโจ๊ก' ลาบวช 2 ครั้ง ช่วงชีวิตข้าราชการตำรวจ
เปิดใจ 'บิ๊กโจ๊ก' เผยสาเหตุลาบวช 2 ครั้ง ยืนยันไม่ใช่คนหนีปัญหา พร้อมให้แนวคิดและวิธีทำงาน ลูกน้องข้าราชการตำรวจที่ผิดหวังแต่งตั้งตำรวจ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับทีมข่าวคมชัดลึกถึงการตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมทบที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นครั้งที่ 2 ว่า ส่วนใหญ่คนจะมองว่า คนที่ไปบวชมีเรื่อง แต่สำหรับตนคิดต่างกัน เพราะช่วงวัยเด็กไม่มีโอกาสได้บวช ทำงานหนักมาตลอด จบจากโรงเรียนนายร้อยก็ทำงานหนักมาก ไม่มีเวลาบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ และสมัยเข้าเรียนหลักสูตรศาล หลักสูตรบริหารกระบวนการยุติธรรมชั้นสูง ก็มีให้สมัครไปบวชที่อินเดีย ตนก็ลงชื่อเข้าร่วมตลอด แต่ด้วยปริมาณงานที่มาก "ไม่มีเวลา"
ซึ่งช่วงการบวชครั้งที่1 เมื่อปี 2563 เป็นช่วงที่ได้ย้ายไปสำนักนายกรัฐมนตรี (ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) ทำให้พอมีเวลาว่าง ครั้งนั้นมีความตั้งใจ บวชทั้งที ก็อยากไปบวชในดินแดนที่พระพุทธเจ้าประสูติและตรัสรู้
ทั้งนี้พอกลับย้ายมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนเชื่อเรื่องบุญกุศลผู้บังคับบัญชาเมตตา จึงมีความตั้งใจจะบวกอีกครั้ง ซึ่งมีตัวอย่างคือ ชาวสงขลาอย่าง ศาสตราจารย์กิตติคุณ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่พาคนไปบวชทุกปี จึงตั้งใจเมื่อปีที่แล้ว จะกลับไปบวชที่วัดไทยพุทธคยา พร้อมยืนยันว่าไม่ไปที่ไหนจะอยู่ที่วัด และสวดมนต์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ทุกวัน ซึ่งเตรียมกำหนดวันไว้แล้ว พร้อมกับยืนยันว่าไม่ไปที่ไหนจะอยู่ที่วัด และสวดมนต์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ทุกวัน
สุดท้ายงานเยอะ ไปไม่ได้อีก กระทั่งปัจจุบันตนเกิดการเปลี่ยนแปลงเนื้องาน รับผิดชอบงานจราจรและความมั่นคง ทำให้ปริมาณงานไม่เข้มข้นเหมือนอดีต จึงมีโอกาสได้เดินทางไปบวช พร้อมกับปิดวาจา
" ยืนยันไม่ได้หนีปัญหา เพราะปกติไม่ใช่คนหนีอยู่แล้ว ไม่ใช่คนเกเร ต่อสู้ตามวิถีทาง ไม่ว่าจะโดนย้ายกี่ครั้ง ซึ่งตนโดนย้ายบ่อยมาก ไม่รู้กี่ครั้ง แต่ผมก็ใช้วิธีการต่อสู้ตามหลักกฎหมาย " พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว
สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจประจำปี 2566 มีหลายคนที่ทั้งสมหวังและไม่สมหวัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเป็นข้าราชการประจำก็ต้องน้อมรับในส่วนนี้ ซึ่งใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติใหม่ ให้อำนาจผู้บัญชาการทุกหน่วย โดยการแต่งตั้งตำแหน่งมีจำนวนน้อย ขอเป็นกำลังใจ ขอให้ทุกคนอดทน ข้าราชการตำรวจ ถูกสอนให้อดทนและเข้มแข็ง ยึดหลักประชาชน ประเทศ สถาบัน ดังนั้นแม้วันนี้ไม่สมหวัง พิจารณาตัวเองผิดพลาดตรงไหนมีจุดอ่อนตรงไหน ก็ไปเติมเต็ม ขออย่าเอามาเป็นความน้อยใจ เหมือนกับการเล่นกีฬา หากแพ้ปีนี้ กลับไปซ้อมใหม่และปีหน้าก็กลับมาแข่งใหม่ เดี๋ยวก็ชนะ ทำให้ดีเตรียมให้พร้อม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยอมรับ ตนเองก็เหมือนกับทุกคนที่มีทั้งผิดหวังสมหวังมา ต้องเข้มแข็งและเดินหน้า ทำให้ดีที่สุด อนาคตผู้บังคับบัญชา ลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน ก็จะเห็น วันนั้นเราก็จะได้รับการยอมรับและได้รับการแต่งตั้งสมกับที่มุ่งหวังและอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี พร้อมฝากผู้บังคับบัญชาให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องที่ตั้งใจทำงาน ด้วย
"ที่ผ่านมา ผมแข่งกับตัวเอง ถ้าวันนี้เราไม่ดีไม่สมหวัง ต้องพัฒนาตัวเองและกลับมาต่อสู้ใหม่ แต่การต่อสู้เราต้องต่อสู้ในเรื่องของการทำงานเพื่อประชาชน ทำงานให้นายเห็น ทำงานให้ประชาชนและชาวบ้านดู 2 หลักที่ใช้มาตลอด" รอง ผบ.ตร. กล่าว