'ปทส.' จับร้านขาย 'ถ่านไม้' ไร้ใบอนุญาต พบสต๊อกเกินกำหนด 130 กก.
ตำรวจ "ปทส." รวบเจ้าของร้านขาย "ถ่านไม้" ครอบครองซึ่งของป่าหวงห้าม เกินปริมาณที่กําหนด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
15 ธ.ค. 2566 กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม โดย พ.ต.ต.หญิงภิ์ษัชกร เลิศวิลัย สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส. พร้อม เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ปทส. ร่วมกันจับกุม นางลมัยพร (สงวนนามสกุล) โดยแจ้งข้อกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 "มีไว้ในครอบครองซึ่งของป่าหวงห้าม (ถ่านไม้ทุกชนิด) เกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่" ซึ่งจะมีอัตราโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
โดยจับกุมได้ที่ร้านขายถ่านไม้ริมถนนทางหลวงหมายเลข 1276 ต.ไผ่รอบ อ.เมือง จ.พิจิตร พร้อมยึดของกลาง ถ่านไม้ทุกชนิดมากกว่า 6 ตัน หรือจำนวน 500 กระสอบ
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ ได้ตรวจสอบพบมีร้านขายถ่านไม้ใส่กระสอบวางขายอยู่เป็น จํานวนมากที่ริมถนน จึงได้สอบถามเจ้าของร้าน คือ นางลมัยพร พบว่าไม่เคยขออนุญาตครอบครองของป่าหวงห้ามมาก่อน
ตรวจสอบรอบบริเวณร้านมี ถ่านไม้ สต๊อกอยู่มากกว่า 6 ตัน หรือจำนวน 500 กระสอบ โดยที่นางลมัยพร อ้างว่ารับซื้อมาเก็บไว้ใช้ในครัวเรือน และแบ่งขายตามโอกาส จึงไม่ได้ไปขออนุญาต
เจ้าหน้าที่ตํารวจ จึงได้แจ้งให้ นางลมัยพร ทราบว่า ถ่านไม้ทุกชนิด ถือเป็นของป่าหวงห้าม ตามพระราช กฤษฎีกา กําหนดของป่าหวงห้าม พ.ศ. 2530 ซึ่งการที่จะมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้ในครัวเรือนจะต้องมีไม่เกิน 130 กิโลกรัมเท่านั้น ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯ ลงวันที่ 22 ม.ค. 2531 หากเกินกว่านั้น ผู้ครอบครองจะต้องได้รับจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อน จึงจะสามารถครอบครองไว้เพื่อประกอบการค้าได้
เจ้าหน้าที่จึงทําการตรวจยึดถ่านไม้ รวมแล้วน้ําหนักกว่า 6,000 กิโลกรัม พร้อมกับนําตัวนางลมัยพร ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ประทับช้าง ดําเนินคดี