'ทนายตั้ม' แฉ ขรก.มท.ช่วยบิ๊กรัฐวิสาหกิจ แก้สูติบัตร-บัตรปชช. ยืดเกษียณ | คมชัดลึก

จากกรณี เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2566 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

 

มีข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ช่วยผู้บริหารระดับสูง รัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง สูติบัตร และบัตรประชาชน เพื่อขยายระยะเวลาเกษียณของตัวเอง ทำทำไม? ทำเพื่ออะไร?

 

ยื่นคำร้องแจ้งเกิดต่อนายทะเบียน มกราคม 2507 แต่บัตรประชาชนใหม่ ระบุเกิด ธันวาคม 2507 โอ้โหนี่ แจ้งเกิดล่วงหน้าเกือบ 1 ปี!!

 

 

ล่าสุด ที่สำนักงานทนายตั้ม (Sittra law firm) นายษิทรา หรือ  ทนายตั้ม  แถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า ชมรมคนรักองค์กร ได้มีการร้องเรียนเข้ามาว่า มีช่วยผู้บริหารระดับสูง รัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับการคมนาคมแห่งหนึ่ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง สูติบัตร และบัตรประชาชน 

 

โดย หลังจากได้ดูเอกสารบัตรประชาชน และ สูติบัตรมีการแก้ไขปีเกิด พบว่า สูติบัตร มีการแก้ไข ปีเกิด จาก 2506 เป็น 2507 เมื่อตนได้ไปเทียบกับปฏิทินร้อยวัน มันจะไปตรงกับปี 2507 คาดว่าน่าจะลืมแก้ไขจึงมีข้อสังเกตุเกิดขึ้น เช่น ถ้าได้รับแจ้งเกิด จะรู้ล่วงหน้าได้อย่างไร ว่าจะมีการเกิดในปี 2507 

 

ทนายตั้ม กล่าวว่า ตนคาดว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 2564 น่าตกใจคือ ตรงที่อายุ 58 เพิ่งทราบว่าตัวเอง เกิดปี 07 ไม่ใช่ 06โดยผู้ทำการปลอมแปลงเอกสารเป็น รองผจก.ใหญ่ ซึ่งมีอำนาจ ในการจัดซื้อจัดจ้าง  

 

 

 

และเคยมีข่าวตอนปี 2555 ซึ่งเป็นคดีคล้ายกัน แต่ทางไม่ทราบว่าท้ายที่สุดคดีไปถึงไหนอย่างไรมูลเหตุสำคัญที่ทำให้มาร้องเรียน คือมีเอกสารส่งมา ถ้าจะเกษียณ ต้องเกษียณตั้งแต่ เดือนกันยายน ผู้ร้องเรียนเห็นพิรุธว่าบัตรประชาชนไม่เหมือนกัน  ซึ่งมีบัตรประชาชน2 ใบ 

 

ส่วนในประเด็นที่ว่าเป็นการชี้ชัดไหมว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยมีส่วนช่วย อาจจะมี แต่ไม่ว่าอย่างไรข้าราชการในกระทรวงควรมีการตรวจสอบให้ดี  ไม่รู้ว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นหรือไม่ แต่ในที่สุดมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง  มูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้แต่คาดว่าอาจจะมีเป็นพันล้าน 

 

ทนายตั้ม กล่าวอีกว่า  จริงๆ มีตรวจสอบมาแล้วแต่โครงการไม่ทำอะไรถึงได้มีการร้องเรียนมาทางทนายตั้ม ซึ่งหากตรวจสอบแล้วมีความผิดจริงจะมีโทษจำคุก  6 เดือน - 3 ปี