ข่าว

'ผบ.ตร.' ยกคดี น้องชมพู่ โมเดลนักสืบรุ่นใหม่ แนะใช้วิธีดั้งเดิมคู่สมัยใหม่

'ผบ.ตร.' ยกคดี น้องชมพู่ โมเดลนักสืบรุ่นใหม่ แนะใช้วิธีดั้งเดิมคู่สมัยใหม่

21 ธ.ค. 2566

"ผบ.ตร." ชมตำรวจชุดคลี่คลายคดี "น้องชมพู่" หลักฐานสำคัญทางนิติวิทยาศาสตร์ "เส้นผมน้องชมพู่" ยกเป็นโมเดลนักสืบรุ่นใหม่ แนะใช้วิธีสืบสวนดั้งเดิมคู่สมัยใหม่ตามจับคนทำผิด

21 ธ.ค. 2566 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงมาตรฐานการทำงานของพนักงานสอบสวน ในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ว่า ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่และรู้สึกพอใจผลการปฏิบัติงานในคดีนี้ ซึ่งคดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยของ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นการทำงานที่ยากมาก เนื่องจากคดีนี้ไม่มีพยานหลักฐานในอากาศ ไม่มีประจักษ์พยานใดๆ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

 

แต่เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะฝ่ายสืบสวนได้พยายามสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์คือ เส้นผมของน้องชมพู่ที่ถูกตัด และพยานบุคคลที่ให้การมาตั้งแต่ต้น และไม่เคยกลับคำให้การเลย ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้สำนวนมีความแน่นหนาในระดับหนึ่ง จนทำให้ศาลเชื่อและมีคำพิพากษาดังกล่าวได้

 

ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาได้โต้แย้งว่า ไม่ได้รับความชอบธรรมในการเข้าตรวจค้นรถของตนเองนั้น ก็เป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาสามารถทำได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน และการที่ศาลยกฟ้องนั้นก็เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยจึง ยกประโยชน์ให้จำเลยแต่หากมีพยานหลักฐานอื่น ๆ ก็สามารถเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์ได้

 

หลักฐานเส้นผม น้องชมพู่ ที่พบบนรถ และ บนภูเขา

 

 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะต้องยกคดีของลุงพลนี้เป็นโมเดลในการปรับปรุงพัฒนางานสืบสวนในอนาคต ทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมศาสตร์ของคนร้าย และการสืบสวนแบบดั้งเดิม (back to basic)  ซึ่งวานนี้ได้แจ้งกับที่ประชุมของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้วว่าให้ฝึกนักสืบรุ่นใหม่ ๆ ให้สามารถสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งประจักษ์พยานและพยานแวดล้อมด้วยวิธีแบบดั้งเดิม ยกระดับให้มีความเป็นสากลและมืออาชีพมากขึ้น