ข่าว

'อัจฉริยะ' ร้อง ปปป. ผอ. 'ดีเอสไอ' เอี่ยวทุจริตคดีสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่

'อัจฉริยะ' ร้อง ปปป. ผอ. 'ดีเอสไอ' เอี่ยวทุจริตคดีสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่

25 ธ.ค. 2566

"อัจฉริยะ" ร้อง ปปป. สอบ ผอ."ดีเอสไอ" กับพวก ร่วมทุจริตคดีสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่ กรณีใช้อำนาจคืนทรัพย์ของกลางมิชอบ

25 ธ.ค. 2566 นายอัจฉริยะ  เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบ พ.ต.ท.พงศ์ปณต บัวแก้ว รองผู้กำกับการสอบสวนกองกำกับการ4กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมยื่นคำร้อง เพื่อให้ตรวจสอบ ผู้อำนวยการ กองผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ  หรือ ดีเอสไอ กับพวก ร่วมกัน ทุจริตตามมาตรา 157  ในคดีสหกรณ์ปาล์มน้ำมันกระบี่ จังหวัดกระบี่

นายอัจฉริยะ  เรืองรัตนพงศ์ ร้อง ปปป.สอบ ผอ. ดีเอสไอ เอี่ยวทุจริตสหกรณ์ปาล์น้ำมันกระบี่

 

 

นายอัจฉริยะ  กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจาก พลเมืองดี ซึ่งเป็นผู้เสียหายชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่  จำกัด ว่า มีการทุจริตของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการสั่งคืนของกลางที่เป็นทรัพย์ของกลางซึ่งเป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มสาขาคลองท่อม  อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ดีที่สุดของเมืองไทย  และมีเครื่องจักรที่ติดตั้งในโรงงานเป็นเครื่องจักรที่นำเข้าจากต่างประเทศทุกชิ้นส่วน

 

ซึ่งคดีนี้ทาง ป.ป.ช. มีมติให้ส่งคดีนี้มาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดี กับผู้ที่ทำผิดกฎหมายในการทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด 

 

 

ต่อมา ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กับพวก  ได้ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ม.157 ในการคืนทรัพย์ของกลาง โดยใช้ดุลพินิจมิชอบคืนทรัพย์ของกลางทั้งหมดให้กลุ่มผู้กระทำความผิดครอบครอง ได้ใช้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ต่อเนื่องจนเครื่องจักรสึกหรอ มากกว่าที่ควรเป็นของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มโดยทั่วไป  ทำให้ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียจำนวน 13 สหกรณ์ และ 34 เครือข่ายสหกรณ์  มีสมาชิกมากกว่า 50,000 ครอบครัว ได้รับความเสียหาย

 

จนกระทั่งตัวแทนของชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ จำกัด ได้ยื่นเรื่อง ขอพระราชทานกราบทูลถวายฎีกา และขอความเป็นธรรม ต่อ สำนักงานองคมนตรี ทำเนียบองคมนตรี เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำหน้าที่ของ ผู้อำนวยการกองฯ กับพวก  โดยทุจริต

 

จนกระทั่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการเปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ และได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้นายคณพ ปิ่นทอง เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน และขอให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เรียกมาสอบสวนเป็นพยานรวมทั้งของเอกสารเกี่ยวข้องกับคดีนี้ มาเป็นพยานเอกสารเช่นเดียวกัน