เด็กชายเหยื่อโค้ชฟุตบอล-อดีตนายทหารข่มขืนแอบถ่ายคลิปเพิ่มขึ้นเป็น 9 ราย
เจอเหยื่อเพิ่ม 9 รายแล้ว โค้ชฟุตบอลกับอดีตทหาร ข่มขื่นแอบถ่ายคลิป ขณะที่ "ปวีณา" บินด่วนลงพื้นที่ จ.อุดรธานี หามาตรการป้องกันเหตุข่มขืนนักเรียน
จากกรณีโค้ชฟุตบอล ร่วมกับ อดีตทหารยศพันตรี ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล ล่อลวงเด็กนักเรียนชายอายุ 10-13 ปี ข่มขืนกระทำชำเรา-ถ่ายคลิป กระทั่งมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าช่วยเหลือเด็กชาย พร้อมประสานตำรวจ ปคม.จนจับกุม 2 ผู้ต้องหาและได้ประกันตัวในเวลาต่อมา
(6 ม.ค.67) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ พร้อมด้วย ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ตำรวจ ปคม. เดินทางไปที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 2 (สพป.อุดรธานี เขต2) อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
นางปวีณา เปิดเผยภายหลังประชุมว่า วันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสังคมมาประชุมบูรณาการร่วมกัน เพื่อขยายผลและดูแลเด็กผู้เสียหาย พร้อมทั้งครอบครัวให้ได้รับความเป็นธรรม
ทั้งนี้ ทางสถานศึกษาจะหามาตรการป้องกันไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้นกับเด็กอีก และสร้างความมั่นใจให้กับเด็กในเรื่องการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนทางอำเภอจะเข้าไปดูแลความปลอดภัย กระทรวงยุติธรรมจะช่วยเงินเยียวยาเด็กผู้เสียหายรายละ 55,000 บาท อีกทั้งทางพัฒนาสังคมฯ จะเข้าเยี่ยมบ้านดูแลครอบครัว ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับกับตำรวจ ปคม. กระทรวงศึกษาธิการ และทุกหน่วยงาน ดำเนินการติดตามคดีอย่างใกล้ชิดจนถึงที่สุด
แม่ของเหยื่อหนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ทุกวันนี้พ่อแม่ผู้ปกครองและลูกๆ ทุกคนมีความกังวลใจที่ผู้ต้องหา ได้รับการประกันตัวออกมาและส่งแชทไลน์ไปหาเด็กๆ ถามไถ่มีใครไปแจ้งความบ้าง ทำให้เด็กทุกคนหวาดกลัวเกรงจะไม่ปลอดภัย อย่างนี้จะเรียกว่ายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิกถอนการประกันตัวผู้ต้องหา เพราะทุกคนรู้สึกว่าถูกคุกคามในชีวิตนอกจากนี้ผู้ต้องหายังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เสียงดังแทบทุกวันเหมือนเป็นการเยาะเย้ยไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายทำให้ทุกคนอยู่ไม่เป็นสุข
และอยากให้เด็กที่ตกเป็นเหยื่อและพ่อแม่ที่ยังไม่กล้าออกมาแจ้งความได้ยอมรับความจริงและออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกและครอบครัว อย่าอายเพราะเราเป็นผู้เสียหาย คนที่ทำผิดจะต้องเป็นคนที่ต้องละอายมากกว่า
ขณะที่ครูสาว ซึ่งแจ้งเรื่องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า หลังมีการจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีทางญาติของผู้ต้องหาได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กในเชิงข่มขู่ เช่น วันพระไม่ได้มีหนเดียว และจะเอาเรื่องคนที่ไปแจ้งความให้ถึงที่สุด ทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนและเพื่อนครูเป็นห่วงสวัสดิภาพไม่ให้ครูเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวหรืออยู่ที่โรงเรียนคนเดียว จึงขอฝากเรื่องนี้ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย