
ตร.ไซเบอร์ รวบสาว 'บัญชีม้า' แก๊งตุ๋นเทรดหุ้นตปท. เหยื่อสูญเงินกว่า 8.3 ล้าน
"ตำรวจไซเบอร์" แกะรอยรวบสาวเจ้าของ "บัญชีม้า" แก๊งอ้างชื่อคนดังด้านการลงทุน หลอกเหยื่อเทรดหุ้นต่างประเทศ ก่อนเชิดเงินหนีหาย สูญกว่า 8.3 ล้านบาท
20 ม.ค. 2567 ตำรวจ บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ ได้รับคำจากผู้เสียหายว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นคนที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนในตลาดหุ้น ชักชวนให้ลงทุนซื้อขายหุ้นต่างประเทศ แต่เมื่อลงทุนไปแล้วกลับไม่สามารถถอนเงินคืนได้ ทำให้เสียหายไป 8,350,000 บาท
จึงได้สืบสวนทราบว่าคนร้ายกลุ่มดังกล่าวมีมากกว่าหนึ่งคน มีการวางแผนและจัดแบ่งหน้าที่กันทำ โดยการตั้งเพจเฟซบุ๊กและใช้ชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้เหยื่อที่มีความสนใจด้านการลงทุนในตลาดหุ้น
เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อแล้วกดติดตาม จะมีกลุ่มคนร้ายทักข้อความมาชักชวนให้แอดไลน์ที่กลุ่มคนร้ายตั้งขึ้น จะอ้างว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนในตลาดหุ้น คอยให้คำแนะนำ ทำให้ผู้เสียหายเกิดความเชื่อถือ เกิดความโลภ เชื่อว่าเป็นการลงทุนในตลาดหุ้นจริง กลุ่มคนร้ายมีการสร้างแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเองให้เสมือนจริง เพื่อให้ผู้เสียหายสมัคร และเชื่อว่าเป็นการลงทุนจริง
เมื่อหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีที่กลุ่มคนร้าย คนร้ายก็จะกรอกข้อมูลส่วนตัวและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้ดูน่าเชื่อถือว่ามีการซื้อขายหุ้นต่างประเทศจริง ผู้เสียหายก็จะเพิ่มเงินลงทุนไปเรื่อยๆ จากนั้นเมื่อผู้เสียหายจะเริ่มถอนเงินคืน กลุ่มคนร้ายก็จะเริ่มบ่ายเบี่ยงไปเรื่อยๆ และจะไม่สามารถเบิกถอนได้
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เร่งสืบสวนติดตามจับกุมหาตัวผู้กระทำผิด กระทั่งทราบตัวหนึ่งในเจ้าของบัญชีรับโอนเงิน หรือ บัญชีม้า คือ น.ส.เปรมฤทัย (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลออกหมายจับตามหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1130/2566 ลงวันที่ 3 พ.ย.2566 เพื่อตัดวงจรขบวนการหลอกลวงออนไลน์
และเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ชุดสืบสวน บก.สอท.1 สามารถจับกุม น.ส.เปรมฤทัย ได้ที่บ้านย่านสายไหม รุงเทพฯ ในข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือเป็นผู้สนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง” จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัว ผู้ต้องหา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.4 ดำเนินคดี