ส่องบ้านเด็ก 12 ถูก ‘ด.ต.’เมาซิ่งชนสาหัส ถึงกับน้ำตาซึม
ส่องบ้านเด็ก 12 ถูก ‘ด.ต.’ เมาซิ่งชนอาการโคม่า ถึงกับน้ำตาซึม พบน้องขยันสู้ชีวิต และเป็นหลักช่วยดูแลอากงวัย 91
ความคืบหน้า กรณี ด.ต.สมทรง อายุ 50 ปี สังกัด สภ.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมาแล้วขับรถกระบะพุ่งชนรถนับ10คัน รวมทั้งชนรถจักรยานยนต์ และลากร่าง ด.ช.วัย 12 ปี ไปไกลกว่า 300 เมตร ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลร้อยเอ็ด โดยตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 321 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักของ ด.ช. วัย 12 ขวบ ได้พบกับ นายสุขุม น้าของเด็ก เปิดเผยว่า ปกติหลานเป็นคนขยันเรียน เวลาว่างก็ช่วยงานบ้านทุกอย่าง แม้แต่ไปขายของ ก็ช่วย รวมทั้งดูแลอากงผู้สูงอายุในบ้าน ก็ดูแลเป็นอย่างดี ส่วนวันเกิดเหตุหลานเดินทางออกไปกับป้า เพื่อซื้อของเตรียมไปพักแรมเข้าค่ายลูกเสือ แต่ก็ปรากฏว่า ประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ทำให้ไม่ได้เข้าไปเข้าค่ายลูกเสือ กับทางโรงเรียน
“หลานชายอยู่กับญาติ ไม่มีพ่อแม่ดูแล เนื่องจากพ่อแยกทางกับแม่ไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน และต่อมาแม่เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีก่อน ต้องอยู่ในความดูแลของอากงและญาติๆทุกคน เขาขยันหมั่นเพียรเรียนดี ช่วยงานทุกด้าน ของครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าที่หลักคือดูแลอากง เรื่อง ความเป็นอยู่อาหารการกิน ทุกด้าน" นายสุขุม กล่าว
ด้าน นายเงี๊ยบ อายุ 91 ปี อากง กล่าวว่า ปกติหลานชายดูแล ตนมีอาการป่วยหลายอย่างเดินไม่สะดวก คอยหาข้าวหาน้ำตลอดเวลา หลังจากหลานบาดเจ็บตัวเองก็ลำบากขึ้น เพราะขาดคนดูแล หลานเป็นเด็กนิสัยดี ดูแลทุกคนในครอบครัว ด้วยความเอื้ออาทรมาโดยตลอด
ขณะที่น้าชายเปิดเผยว่า อาการของหลานขณะนี้ทรงตัว รอผลตรวจ ตอนนี้อยู่ในสภาวะขาดน้ำ เสียเลือดมาก ส่วนแผลตามร่างกายแพทย์บอกว่าหนักทั้งตัว ตั้งแต่ซีกหน้าไปจนถึงเท้า เพราะถูกรถลากไปไกล วันนี้จะเข้าไปดูอาการและประเมินอาการวันต่อวัน ดีที่สมองไม่เป็นไร หลานรู้สึกตัว ได้แต่พยักหน้าพูดไม่ได้ แพทย์ต้องให้น้ำเกลือและเลือด ตอนอยู่ในห้องไอซียูก็เกิดอาการช็อก