ข่าว

'จตุพร' จับตาหลัง 18 ก.พ. 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน ซัดอภิสิทธิ์ชนไม่ติดคุกสักวัน

'จตุพร' จับตาหลัง 18 ก.พ. 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน ซัดอภิสิทธิ์ชนไม่ติดคุกสักวัน

06 ก.พ. 2567

'จตุพร' เผย หลัง 18 ก.พ. 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน เชื่อมีดีลก่อนกลับไทย ได้อภิสิทธิ์ชนไม่ติดคุกสักวัน เตือนประชาชนไม่พอใจลุกฮือ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ว่า ดีลกลับบ้านของอภิสิทธิ์นักโทษชั้น 14 รพ.ตำรวจ จะได้รับการปฏิบัติตามพันธะสัญญาที่ทำกันไว้หรือไม่ หลังวันที่ 18 ก.พ.นี้ มีคำตอบจากผลกระทบของสถานการณ์จะเบี้ยวหรือรักษาคำมั่นนายกฯเศรษฐา ทวีสิน พอแค่นี้ ไปต่อไม่ได้

 

นายจตุพร กล่าวต่อว่า การเริ่มต้นดีลที่ไม่ถูกต้องย่อมแสดงถึงใบเสร็จการสมคบคิดยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 2557 แต่มายื่นแสดงผลการกระทำเมื่อ 22 ส.ค. 2566 เพราะถ้าไม่มีดีลทำข้อตกลงกันแล้ว คงมาลงเอยแบบกลับบ้านไม่ต้องติดคุกสักวันไม่ได้เลย อีกอย่างดีลแบบนี้เป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กระบวนการยุติธรรมหลายแวดวงมาก 

นอกจากนี้ตำรวจต้องการนำตัวนักโทษเด็ดขาดทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไปส่งอัยการสั่งฟ้องคดี 112 ยังต้องทำเรื่องถึงเรือนจำ แต่คำตอบกลับให้เข้าพบไม่ได้ ดังนั้นเมื่อแจ้งข้อกล่าวหาไม่ได้ วันที่ออกจากชั้น 14 จะถูกตำรวจอายัดตัวทันที เพราะต้องปฏิบัติกับผู้ต้องหาเด็ดขาดเหมือนกันทุกคดี 

 

ซึ่งหากวันหนึ่งประชนเห็นว่าทนไม่ไหวแล้ว รัฐบาลคงจะเอาไม่อยู่กันเลย แม้จะใช้อำนาจจัดการทุกสิ่งอย่าง แต่ถ้าอำนาจเอาไม่อยู่อีก ลงท้ายจะนำพาไปสู่การฆ่ากันอีกหลายรอบ มีคนตาย บาดเจ็บอีกจำนวนมากและคงไม่จบสิ้น

นายจตุพร กล่าวว่า หลังจาก 18 ก.พ.เมื่อนักโทษทักษิณได้กลับบ้าน ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะการไม่ยอมติดคุกสักวันเป็นพฤติกรรมของพวกอภิสิทธิ์ชน ทั้งที่อ้างถึงความสำนึกยอมรับการกระทำผิดในคดีทุจริตที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้น จึงเป็นห่วงข้าราชการที่มาเกี่ยวข้อง เพราะชีวิตถูกแขวนขาข้างหนึ่งเข้าคุกไว้แล้ว แล้วจะกลายเป็นคนสิ้นอนาคต ไม่เพียงเท่านั้นยังลากเอาครอบครัวมารับผลกระทบอีกด้วย

 

ใครที่เป็นองค์ประกอบการดีลทั้งหลาย คิดว่าจะคุมสถานการณ์อยู่จนถึงวันจะครบกำหนดการดีลหรือไม่ ถ้าดีลถูกหักจะลงท้ายด้วยการยึดอนาจหรือไม่ เหมือน รธน.ปี 2540 เปิดช่องให้พรรคไทยรักไทยเติบโตจนคุมไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ เมื่อมา รธน. 2560 คิดว่าจะคุม สว.ได้ แต่ สว.กำลังพ้นวาระและพรรคการเมืองอีกฝ่ายเริ่มมีโอกาสเข้ามาคุมแทนที่หมด ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากกรณีความยุติธรรมที่ไม่ยุติธรรมเสมอหน้า เท่าเทียมกันทางกฎหมาย

 

“เมื่อตัวเองเป็นคนกระทำผิดเองทั้งนั้น ก็อย่าไปโทษใครเลยว่า ถูกรังแก ถูกกระทำ เพราะตัวเองสารภาพยอมรับความผิดในคดีทุจริตคอรัปชันเอง หากเป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตยมาจริง จนถูกยึดอำนาจ ถ้าก้มหน้ารับโทษ 8 ปีโดยไม่สะทกสะท้านแล้ว ประชาชนจะเข้าใจการยอมรับกระบวนการยุติธรรมและจะเห็นใจ” นายจตุพรกล่าว