รวบ บีมชายคา สาวแสบ หลอกหนุ่มนักเที่ยวไปนอนด้วย อาศัยทีเผลอ 'ฉกทรัพย์ ' หนี
รวบคาคอนโด "บีมชายคา' สาวแสบภัยหนุ่มนักเที่ยวราตรี ทำทีตีสนิทจนตายใจ หลอกชวนค้างคืน อาศัยทีเผลอ "ฉกทรัพย์" หนี
6 ก.พ. 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.สส.1 บก.สส.บช.น.ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ภัทราภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี หรือ บีมชายคา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 313/2567 ลงวันที่ 22 ม.ค. 2567 ความผิดฐาน "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นซึ่งได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้โดยมิชอบ เพื่อใช้เบิกถอนเงินสด ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน"
โดยจับกุม ได้บริเวณด้านหน้าคอนโดมิเนียม ภายใน ซ.รามคําแหง43/1 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ ผู้มีเสียหายร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาลว่า ถูก น.ส.ภัทราภรณ์ ผู้ต้องหา ซึ่งจะท่องราตรีตระเวนหาเหยื่อตามสถานบันเทิงในย่าน กทม. เมื่อได้พบเจอกับผู้เสียหายที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และมีการแลกเปลี่ยนไอดีไลน์กัน ผู้ต้องหาได้นัดพบเจอผู้เสียหายที่ห้องของผู้เสียหายโดยทำทีว่าจะขอเข้าพักค้างคืน เมื่อสบโอกาสในระหว่างที่ผู้เสียหายเข้าห้องน้ำและเผลอจึงได้นำเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป
โดยทรัพย์สินมีค่าที่ได้ไป ดังนี้
1. สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทอง จำนวน 1 เส้น น้ำหนักประมาณ 6 สลึง และพระจำนวน 1 องค์
2. แหวนทอง จำนวน 1 วง น้ำหนักประมาณ 2 สลึง
3. บัตรเอทีเอ็ม จำนวน 1 ใบ และใช้บัตรกดเงินออกมาได้อีกจำนวน 3,700 บาท
จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การว่า มีการกระทำในลักษณะนี้อีกหลายครั้ง โดยได้ทรัพย์สิน ทั้งเงินและของมีค่าประมาณ ครั้งละ 20,000-40,000 บาท และยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย แต่จะเกิดความอับอาย ไม่กล้าเข้าแจ้งความเอาผิด เพราะเกรงจะเป็นข่าวและมีผลกระทบต่อครอบครัว
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนำส่ง สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช เตือนนักเที่ยวกลางคืน ให้ระมัดระวังสาวหน้าตาดี จะเข้ามาตีสนิทพูดคุยให้เหยื่อที่เป็นเป้าหมายได้ตายใจและจะไม่มีการลงมือในทันที แต่จะแลกเบอร์โทร ไลน์ พูดคุยและนัดเจอกันในภายหลัง เมื่อมีการนัดเจอและพูดคุยกันแล้ว ก็จะขอไปนอนด้วยอาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ ฉกเอาทรัพย์สินหายไป หรือบางรายอาจจะโดนมอมยา รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อรุ่งเช้า พบว่าทรัพย์สินหายไปแล้ว ขอเตือนสตินักท่องเที่ยว ต้องระมัดระวังภัยจากมิจฉาชีพที่มุ่งหวังในทรัพย์สิน แต่ละรายจะใช้วิธีการไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต้องระมัดระวังไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้า หรือเชื่อคนง่ายเกินไป