พล.ต.ต.สุวัฒน์ ประชุมใหญ่ คดี ‘แก๊งตบทรัพย์’ สั่งลุยข้อหา ‘ฟอกเงิน’
พล.ต.ต.สุวัฒน์ ประชุมใหญ่ คดี ‘แก๊งตบทรัพย์’ สั่งลุยข้อหา ‘ฟอกเงิน’ แกะข้อมูลมือถือ ‘ศรีสุวรรณ’เช็กผู้เสียหายเพิ่ม
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.67 ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รองผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดี แก๊งตบทรัพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะพนักงานสอบสวนในคดีอย่างเป็นทางการครั้งแรก เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีทั้งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว รวมถึงประเด็นที่ต้องดำเนินการต่อไป พร้อมมอบภารกิจให้กับคณะกรรมการแต่ละชุดได้ดำเนินการ
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ประเด็นที่มีการหารือกันในวันนี้ คือ การกระทำความผิดต่างๆ และการรวบรวมพยานหลักฐานในทุกๆเรื่อง เช่น การกระทำผิดที่เข้าข่ายคดี ฟอกเงิน มอบหมายให้ทีมพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงหารือเรื่องการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมด้วย ส่วนกรณีนายเจ๋ง ดอกจิก หนึ่งในผู้ต้องหาจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่นั้น ยืนยันว่าทาง ป.ป.ช. ส่งหนังสือยืนยันมาแล้วว่า ผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐขณะก่อเหตุรีดทรัพย์ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะหาพยานหลักฐานมาประกอบเพิ่มเติมอีก
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายวงอื่นๆ นั้น ตอนนี้มีผู้ทยอยเข้ามาให้ข้อมูลและร้องเรียนเพิ่มเติม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีผู้เสียหายทั้งหมดกี่วง ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างแกะรอยจากข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของ นายศรีสุวรรณ จรรยา หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ
พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่เข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในวันนี้จะเป็นวงผู้เสียหายวงใหม่หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ยังต้องรอให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นก่อน ยังไม่สามารถนำมารวมกับคดีเก่าได้ เช่นเดียวกับ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ที่วันนี้ได้เข้ามาให้ข้อมูลในคดีเพิ่มเติม แต่ทั้งสองคนจะให้ข้อมูลในประเด็นใดบ้างนั้น ขอให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโฆษกในคดีนี้เป็นผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้มีความเป็นเอกภาพและถูกต้อง