'อธ.อัยการ' ประชุม พรบ.อุ้มหายฯ ช่วยเหลือ ปชช. กรณีถูกอุ้มทรมาน
อธ.อัยการสพอ. จับมือ อธ.อัยการภ.4 อบรมเพิ่มศักยภาพ พ.ร.บ.อุ้มหาย หากถูกอุ้มทรมาน อัยการช่วยเหลือได้ทันท่วงที
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายพงษ์ศักดิ์ รัตนะพิสิฐ อธิบดีอัยการภาค 4 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมการปฏิบัติภารกิจตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ให้กับพนักงานอัยการและข้าราชการธุรการที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตพื้นที่สำนักงานอัยการภาค 4
โดยมีนายโกวิท ศรีไพโรจน์ อธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ (สพอ.) นายวีระชาติ ศรีบุญมา ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรมการดำเนินคดีชั้นสูง ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด นายทีปกร โกมลพันธ์พร อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และนายยุทธศักดิ์ ศิริสินธว์ อัยการประจำกอง เข้าร่วม
นายโกวิท กล่าวว่า การจัดโครงการฝึกอบรมการปฏิบัติภารกิจตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานอัยการมีความรู้ความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการตามที่กฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย รวมถึงระเบียบและแนวทางในการปฏิบัติตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำหนด ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองและสามารถช่วยเหลือผู้ถูกควบคุมตัวที่ถูกทรมานได้อย่างปลอดภัย รวดเร็ว และชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้จะได้เรียนรู้ถึงขั้นตอนการประสานงานภายในหน่วยงานและองค์กรอื่นในการร่วมกันปฏิบัติภารกิจตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย
ทั้งนี้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มีการแก้ไขในปี 2566 โดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายนั้น เป็นกฎหมายใหม่ที่มีวัตถุประสงค์สำคัญในการคุ้มครองสิทธิของประชาชนโดยกำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่แจ้งการควบคุมตัวให้กับพนักงานอัยการทราบ เพื่อให้พนักงานอัยการตรวจสอบและคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัว
หากพบว่ามีบุคคลใดถูกกระทำทรมาน ถูกกระทำการอันโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือถูกกระทำให้สูญหาย พนักงานอัยการหรือบุคคลที่กฎหมายกำหนดมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อให้มีคำสั่งยุติการกระทำเช่นว่านั้นได้ทันที