'เฮียเกียรติ' อดีตเลขาเลขา เฉลิมชัย ส่งเอกสาร DSI แจงคดีตีนไก่สวมสิทธิ์
KEY
POINTS
เฮียเกียรติ อดีตเลขาฯ เฉลิมชัย ศรีอ่อน ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับคดี ตีนไก่สวมสิทธิ์ เข้ารายงานตัว พร้อมนำเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจตีนไก่ พร้อมยอมรับรู้จัก เฮียเก้า แต่ไม่เคยทำธุรกิจด้วยกัน
8 ก.พ. 2567 ความคืบหน้าคดีพิเศษเกี่ยวกับ เนื้อสัตว์เถื่อนกว่า 10,000 ตู้ ทั้ง ชิ้นส่วนหมูแช่แข็ง ,ชิ้นส่วนวัวแช่แข็ง และตีนไก่สวมสิทธิ์ ซึ่งมีการลักลอบนำเข้าไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ทำการสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด หรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด จนสามารถงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า นายกรินทร์ บุตรชายเฮียเก้า , นายสมเกียรติ หรือ เฮียเกียรติ อดีตเลขาฯ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน, นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร สองสามีภรรยา
ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 , พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 , ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จับกุมแล้ว 4 ราย เหลือเพียงนายกรินทร์ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับที่ต่างประเทศ
ภายหลังการจับกุม พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำในบางประเด็น เนื่องจากผู้ต้องหาส่วนใหญ่ต้องการส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแทน จึงได้มีการนัดหมายให้ผู้ต้องหาแต่ละรายเข้ารายงานตัว ดังนี้ นายสมเกียรติ วันที่ 8 ก.พ. 67 , นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร สองสามีภรรยา วันที่ 9 ก.พ. 67, นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า วันที่ 16 ก.พ. 67
ล่าสุด วันนี้ นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร สองสามีภรรยา เดินทางเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน โดยมีการนำเอกสารจำนวนหนึ่งเข้าแสดงต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งการเข้าพบในวันนี้ถือเป็นการเข้าพบก่อนกำหนดนัดหมาย 1 วัน และไม่ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดใดแก่สื่อมวลชน ก่อนเดินทางกลับออกไป ก่อนที่ นายสมเกียรติ หรือเฮียเกียรติ พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน
หลังจากให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เสร็จเรียบร้อย เฮียเกียรติ เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำเอกสารมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน เนื่องจากในครั้งที่แล้ว ดีเอสไอได้สอบถามแต่ตนยังไม่ทราบข้อมูล จึงไปรวบรวมนำมามอบให้พนักงานสอบสวน ส่วนใหญ่เป็นเอกสารที่แสดงชัดเจนว่าไม่มีชื่อของตนไปเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในบริษัทใดๆ เพื่อชี้แจงตามที่มีการกล่าวหาว่าตนไปร่วมทำกิจการหรือธุรกิจใด และ ยืนยันว่าไม่มีชื่อไปร่วมเกี่ยวข้องในนั้นเลยแม้แต่บริษัทเดียว
โดยเฉพาะในธุรกิจการขายส่งตีนไก่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ตนไม่ได้ข้องเกี่ยวส่วนสาเหตุที่มาที่ทำให้ดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหา ขอให้สอบถามทางพนักงานสอบสวน การยื่นเอกสารชี้แจงในวันนี้ของตนค่อนข้างมีความสมบูรณ์พอสมควร และหลังจากนี้ก็คงต้องเข้ามาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง โดยนัดหมายให้ตนเข้าพบในเดือน มี.ค.
เฮียเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี ได้มีการพูดคุยกับนายเฉลิมชัย แต่ไม่ได้คุยในเรื่องนี้ เพราะนายเฉลิมชัย มีความเชื่อมั่นว่าตนไม่ได้ทำแบบที่ถูกแจ้งข้อหา ทั้งนี้ ไม่มีความกังวลใด ๆ และแน่นอนในพยานหลักฐานที่มี
ส่วนกรณีของเฮียเก้า ยอมรับว่ารู้จักกันจริง แต่ไม่เคยทำกิจการเกี่ยวกับการขายส่งตีนไก่ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ ไม่เคยแม้แต่เรื่องเดียว และเมื่อถามต่อว่า รู้จักกับเฮียเก้าในแง่ใดนั้น นายสมเกียรติ ระบุว่า คือสไตล์คนจีน เฮียเก้ายังมีรูปถ่ายกับอดีตนายกรัฐมนตรี และมีรูปถ่ายกับผู้ใหญ่ทั่วประเทศ การพบเจอกันก็อาจเนื่องด้วยงานสมาคม หรือเจอกันตามงานต่าง ๆ