พยานจับโป๊ะ 'น้องพร' เล่าพิรุธวันพบศพ 'ใหม่' ทำไมรู้ว่าผัวตายก่อนเห็นศพ
เปิดปากพยานสำคัญ เผย พิรุธ 'น้องพร' วันพบศพ 'ใหม่' จับโป๊ะทำไมรู้ว่าผัวตายก่อนเห็นศพ บอกช่างกิต เป็นลูกพี่ลูกน้อง
จากเหตุฆาตกรรมโหดมัดมือมัดเท้ายิงศรีษะหนุ่มโรงงานทิ้งไว้ข้างทางมอเตอร์เวย์ อ.บางปะกง จ.ฉะเขิงเทรา เมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือนายธนาสันต์ หรือ ใหม่ อายุ 33 ปี
โดยหลังมีการพบศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว น.ส.วรรณพร อายุ 33 ปี หรือ น้องพร ภรรยาของผู้ตาย ได้เดินทางมาจุดที่พบศพ พร้อมกับนายกิตติโชติ หรือช่างกิต ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุ และเป็นชายคนสนิทของน้องพร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 'น้องพร' กระหน่ำโทรหา 'นนท์' หัวหน้างาน ช่างกิต ขอให้ช่วยเป็นพยานคดี
- น้องพร จี้แม่เซ็นมอบอำนาจวันจัดงานศพ ครอบครัวคาใจเอี่ยวฆ่าเอาเงินประกัน?
- ‘ช่างกิต’ อุ้มฆ่า ‘หนุ่มโรงงาน’ บทเรียนโลกหลายใบ ของ ‘น้องพร’
จากกรณีดังกล่าว ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยในตัว น้องพร ว่ามีส่วนรู้เห็นกับช่่างกิต ในการฆาตกรรมสามีตัวเองหรือไม่
ล่าสุดวันนี้ 9 ก.พ.67 ทีมข่าวคมชัดลึกได้พูดคุยกับ คุณกุ๊ก หนึ่งในทีมกู้ภัยที่อยู่ในวันเกิดเหตุ ผ่านรายการสับแหลก โดยคุณกุ๊กได้เปิดใจกับทีมข่าวถึงวันที่พรพบศพสามีเป็นครั้งแรกว่าพบพิรุธบางอย่างในตัวพรทำให้เธอตั้งข้อสงสัย ดังนี้
1. คุณกุ๊กเล่าว่า เมื่อพรมาถึง พรยืนยันทันทีว่าเป็นศพของสามีเธอทั้งที่ศพของใหม่ถูกคลุมผ้าขาวทั้งตัว แต่พรมั่นใจได้อย่างไรว่าเป็นสามีของเธอ และมนตอนนั้นเป็นช่วงเวลาใกล้มืด ซึ่งคุณกุ๊กยืนยันว่าศพถูกคลุมทั้งตัว และพรดูเสียใจแต่ไม่ฟูมฟ่ายเท่าที่ควร โดยปกติหากคนรักเสียชีวิตเราควรเสียใจมาก พรกลับมีอาการนิ่งๆ พูดจาฉะฉาน ตอบคำถามตำรวจอย่างฉะฉานทุกคำ
2. พรเดินทางมาพร้อมกับช่างกิต แต่บอกตำรวจว่าช่างกิตเป็นลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งช่างกิตก็เป็นคนพาพรเดินไปคุยกับตำรวจโดยไม่มีท่าทีน่าสงสัย
3. พรให้การกับตำรวจ 2 ทีม ไม่ตรงกัน ตำรวจถามว่าได้แจ้งความแฟนหายไหม พรบอกรอครบ 24 ชม. พรเล่าว่าใหม่ออกจากบ้าน 4 ทุ่ม 6 นาที มาทำงานปกติ แต่ช่วงเวลาเที่ยงคืนเพื่อนร่วมงานของใหม่ทักถามพรว่าใหม่ไม่มาทำงานเหรอ ซึ่งโดยปกติแล้วหากทราบว่าสามีหายไปธรรมชาติจะโทรหา หรือออกตามหา คุณกุ๊กสังเกตุว่าเวลาพรเล่าเรื่องข้ามไปมา ให้การกับตำรวจไม่ตรงกัน ทีแรกบอกว่าใหม่มีเรื่องสำคัญจะบอกแล้วใหม่ก็หายไปเลย
แต่พรให้การกับตำรวจชุด 2 ว่า ใหม่ส่งข้อความมาบอกว่าทำผู้หญิงท้อง ซึ่งโดยปกติหากเป็นผู้หญิงคนอื่นต้องมีอาการโกรธ หรือรีบโทรถาม และเมื่อตำรวจถามต่อว่าได้เอามือถือให้ตำรวจชุดแรกดูไหม เขาเถียงตำรวจด้วยน้ำเสียงแข็งๆ ว่าก็พี่ไม่ได้ขอ ตำรวจก็บอกแฟนเราถูกฆ่านะ มีอะไรควรให้ดูเป็นหลักฐานทั้งหมด
4. คุณกุ๊ก ตั้งข้อสังเกตว่าการฆตกรรมครั้งนี้โหด อาจจะเรื่องพนันรึป่าว ตอนนั้นไม่ได้มองมุมชู้สาว เธอจึงไปกระซิบบอกตำรวจ และเห็นช่างกิตจ้องหน้าด้วยแววตาแข็งๆเหมือนเขาจะคิดว่าสงสัยเบา ระหว่างที่คุณกุ๊กนั่งอยู่ข้างพร เธอเหลือบไปเห็นตอนพรเล่นมือถือ พบว่าในแชทก็ไม่มีประวัติการแชทเลย จึงรู้สึกว่ามันแปลกๆผิดปกติ
5. คุณกุ๊ก และของเธอเคยทำงานขับรถรับส่งพนักงานโรงงาน เธอทราบดีว่า พนักงานโรงงาน จะทำงาน 3 กะ และหยุดไม่ตรงกัน ไม่แน่นอน หมายความว่า ถ้าจะรู้ว่าเลิกงานกี่โมงเข้าออกเวลาไหนต้องเป็นคนใกล้ตัว คุณกุ๊กจึงสงสัยแต่แรกว่าต้องคนในบ้านบอก
6. ในระหว่างที่คุณกุ๊กนั้งอยู่ข้างพร อยู่ ๆ พรก็พูดขึ้นมาว่า มิถุนายนก็ผ่อนรถหมดแล้ว แล้วก็เพิ่งออกกระบะมาอีก 6 เดือน คุณกุ๊กจึงสงสัยว่าทำไมคิดแบบนั้นทั้งที่สามีเสียชีวิตควรเสียใจก่อนไหม
7. บริษัทที่ใหม่ทำงานสวัสดิการดีรายได้ดี ครอบครัวไม่ต้องทำงาน คุณกุ๊กสงสัยว่าหากเกิดการตายขึ้นมาภรรยาจะได้เงินชดเชยจากสวัสดิการหรือไม่
และสภาพศพของใหม่ที่พบคือถูกเชือกมัดมือและเท้า หลังจากส่งไปนิติเวช เหมือนถูกยิงก่อนแล้วมัดที่หลังเพราะมันต้องมีรอยดิ้นรอยถลอก คุณกุ๊กสงสัยว่าเขาอาจจะเบี่ยงประเด็น เป็นการฆาตกรรมอำพรางหรือไม่
8. พรเล่าให้ตำรวจฟังว่าเธอขับจักรยานยนต์ รุ่นคลิก ออกตามหาใหม่ แต่ภาพที่ถ่ายมาเป็นรถอีกคัน คาดว่าเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นเวฟของผู้ตาย และพรบอกว่าขับไปแค่ครึ่งทาง เพราะทางเปลี่ยว ซึ่งคุณกุ๊กเปรียบเทียบว่าถ้าเป็นเธอออกตามหาแฟนคงเอารถยนต์ไปเพราะปลอดภัยกว่า
อย่างไรก็ตามข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อสันนิษฐานของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่เกี่ยวข้องกับรูปคดีโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน