ตร.ออกหมาย 'อินเตอร์โพล' ล่า แก๊งเงินดำ ฆ่านักธุรกิจเมียนมา ชิง 5 ล้านหนี

15 ก.พ. 2567 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)  เปิดเผยความคืบหน้าคดี นายคะยอ เซยา นักธุรกิจชาวเมียนมา เสียชีวิตภายในห้องพัก ในแมนชั่น ย่านสุขุมวิท เขตคลองเตย กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2567 ว่า การสอบปากคำนางเท เทวิน พยานในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ยังไม่เสร็จสิ้น รวมทั้งประเด็นเงิน 5 ล้านบาทที่อ้างว่าหายไปจริงหรือไม่ 

ซึ่งล่าสุดวันนี้ทางด้านของภรรยาผู้เสียชีวิตเดินทางมายืนยันว่า ผู้เสียชีวิตได้เบิกเงินจำนวนดังกล่าวเก็บไว้จริง และหายไปจริง ซึ่งพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการติดตามตัว นายวิลเลียมและนายจอห์น ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ปรากฏว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด พบหลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาออกจากซอยสุขุมวิท 6 ขึ้นแท็กซี่ไปที่ห้องพักในพื้นที่สน.ทุ่งมหาเมฆ จากนั้นได้เก็บข้าวของและประมาณทุ่มกว่าได้เดินออกมาขึ้นรถไปสนามบินดอนเมือง ก่อนที่จะเดินทางออกนอกประเทศไปยังสิงคโปร์ โดยเมื่อคืนนี้ ศาลอาญากรุงเทพฯใต้ได้อนุมัติหมายจับข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายแล้ว 

ทางตำรวจได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขอให้ประสานไปยังสิงคโปร์ ทราบว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาขึ้นเครื่องต่อเดินทางออกจากสิงคโปร์ไปยังอิสตันบูล เมืองในตุรกี และถึงปลายทางเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของประเทศไทย ซึ่งได้ออกหมายอินเตอร์โพล ประสานไปยังประเทศปลายทางแล้วว่า ผู้ต้องหายังอยู่ใน terminal หรือไม่ เพื่อดำเนินการติดตามตัวจับกุม 

ส่วนการสอบปากคำนางเท เทวิน นั้น ให้การว่า เป็นคนแนะนำให้ผู้เสียชีวิตรู้จักกับ 2 คนนี้ อ้างว่าติดต่อเพื่อกู้เงินตราต่างประเทศเพื่อนำไปลงทุนธุรกิจ ซึ่งตอนนี้ตำรวจได้พยานปากสำคัญ คือ ตัวภรรยาผู้เสียชีวิต โดยจะต้องสอบว่า ตัวผู้หญิงคนนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้เสียชีวิตและคำให้การเชื่อถือได้หรือไม่ หากมีหลักฐานพยานเพิ่มเติมจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน 

ส่วนจะเกี่ยวข้องแก๊งเงินดำในประเทศไทยหรือไม่ พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า  กำลังตรวจสอบ เพราะในการเดินทาง 2 ผู้ต้องหาเพิ่งเข้ามาประเทศไทยครั้งแรก เพราะฉะนั้นจะต้องตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องแก๊งเงินดำที่อยู่ในประเทศไทยอย่างไร ในส่วนของผู้เสียหายอ้างว่า มาทำธุรกิจ จากข้อมูลพบเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 52 ครั้ง