'อัยการคดีพิเศษ' ตั้งทีม เตรียมยื่นศาลยึดทรัพย์ 'แก๊งจีนเทา' 600 ล้าน
'อัยการคดีพิเศษ' ตั้งทีม เตรียมยื่นศาลยึดทรัพย์ 'แก๊งจีนเทา' 600 ล้าน หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินไปลงทุน ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ผ่าน ‘แอปพลิเคชั่นปลอม’
เมื่อวันที่ 20 ก.พ.67 นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับสำนวนที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ส่งสำนวนคดีการตรวจสอบและที่รับรายงานจาก กองบังคับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและขอให้วิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงินของผู้ต้องหาซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานฟอกเงินและความผิดฐานการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รายสำคัญคดี นายฉี ซู กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและความผิดฐาน ฟอกเงิน
กรณี แก๊งจีนเทา ร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุน และโอนเงินไปลงทุน คริปโตเคอร์เรนซี ผ่าน แอปพลิเคชันปลอม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีและตรวจค้นหลายเป้าหมาย พบทรัพย์สินของเครือข่ายขบวนการกระทำความผิดจำนวนมาก รวมทั้งทรัพย์สินของ น.ส.จักรีณา เเละเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่มีการเสนอข่าวทางสื่อมวลชนและอยู่ในความสนใจของประชาชนในวงกว้าง และที่มีทุนทรัพย์เป็นจำนวนมาก จึงมีคำสั่งตั้ง คณะทำงานคดีสำคัญ เกี่ยวกับทรัพย์สิน นายฉี ซูกับพวก เป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วย การดำเนินคดีแพ่งของพนักงานอัยการฯข้อ 9
ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาดำเนินคดี เป็นไปด้วยความรอบคอบ ถูกต้องครบถ้วน จึงอาศัยอำนาจตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีแพ่งของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2560ข้อ 8 จึงให้มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงาน เเละให้มีอำนาจทำหน้าที่พิจารณาดำเนินคดี โดยให้ นายนิรันดร์ นันตาลิต อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 3 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน , นายณัฏฐ์ศาสน์ สิทธิชัย อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เเละ นางพรรณทิพย์ คูณทอง ฉันทะดำรงรัตน์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นคณะทำงาน ตั้ง พ.ต.ท.รวมชัย มานะ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เจ้าของสำนวนเป็นเลขานุการ เเละคณะทำงาน
โดยคณะทำงานที่ตั้งขึ้นจะต้องพิจารณายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ริบทรัพย์สินที่ยึดอายัดตกเป็นของเเผ่นดิน ภายในวันที่ 5 มี.ค. 67 (กรอบ90 วัน) นับตั้งเเต่วันที่ 7 ธ.ค.66 เป็นวันที่ เลขาฯปปง. มีคำสั่งยึด อายัดทรัพย์สิน ไว้ชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพฤติการณ์ดังกล่าว มีผู้ร้องทุกข์ พนักงานสอบสวน กก.1บก.ปอท. ให้ดำเนินคดี กับ 1. นางสาวจักรีณา 2. นายลิโล 3.นางสาวอัจฉรา 4.นางสาวสุภาวิณี 5.นายณัฐฐินันท์ 6.นางสาวสาวิตรี 7.นางสาวภัศรา 8.นางสาวลาวัลย์ 9.นางสาวสุมาลี 10.นายฉี ซู 11.น.ส.ไซ เปงเฟย 12. นายฉาง จี และ 13.น.ส.เบียน ควี พฤติการณ์หลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนและโอนเงินไปลงทุน คริปโตเคอร์เรนชี ผ่าน แอปพลิเคชันปลอม
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้มีการโอนเงินไปร่วมลงทุนและได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 129,000,000 บาท พนักงานสอบสวน ได้รับคำร้องทุกข์และทำการสอบสวนเป็นคดีอาญา ต่อมาได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และกล่าวโทษบุคคลเพิ่มเติม
ซึ่งพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีการกระทำความผิดทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่าหนึ่งประเทศ โดยมีนายฉี ซู สัญชาติจีน เป็นหัวหน้าขบวนการ หลอกลวงฉ้อโกงประชาชนให้ร่วมลงทุนในลักษณะที่จะได้ผลตอบแทนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
มีการแบ่งหน้าที่กัน โดยการสร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอม สร้าง แอปพลิเคชัน เทรดเหรียญ คริปโตเคอร์เรนซี ปลอม มีการอำพรางสร้างทางการเงินด้วยการให้ผู้เสียหายโอนเป็นเหรียญเงิน คริปโตเคอร์เรนซี และมีการโยกย้ายเหรียญสกุลเงิน คริปโตเคอร์เรนชี ในลักษณะเป็นทอดๆจำนวนหลายทอด มีทีมนำเงินออกมาจากระบบ (Cash Out) และที่ดำเนินการ ฟอกเงิน ที่ได้จากการกระทำความผิดมาเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง
และพบว่ายังมีเส้นทางการเงินไปยังบุคคลในขบวนการอื่นๆ อีกหลายคน ประกอบกับเมื่อนำมาพิจารณาร่วมกับการทำธุรกรรมของผู้ถูกตรวจสอบ จำนวน 3,390 รายการ รวมเป็นเงินจำนวน 8,706,118,922 บาท ต่อมา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้มีคำสั่ง ลงวันที่ 7 ธ.ค.66 เรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว นายฉี ซู กับพวก จำนวน 133 รายการ พร้อมดอกผล รวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 596,589,429 บาท มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.66 - 5มี.ค.67