ข่าว

'พ่อน้องนุ่น' พบหลักฐาน 'ทอย' สั่งกระเป๋าใบใหญ่ ก่อนลงมือ เชื่อวางแผนมาก่อน

'พ่อน้องนุ่น' พบหลักฐาน 'ทอย' สั่งกระเป๋าใบใหญ่ ก่อนลงมือ เชื่อวางแผนมาก่อน

22 ก.พ. 2567

'พ่อน้องนุ่น' หวังตำรวจเพิ่มข้อหา 'ทอย' เชื่อวางแผนฆาตกรรม หลังพบสั่งกระเป๋าใบใหญ่มาก่อนวันลงมือ ยืนยันไม่เห็นด้วยทั้งคู่คบกัน ลูกสาวถูกทำร้ายหลายครั้ง

นายชัยยา มุธุวงศ์ อายุ 49 ปี พ่อของนางสาวชลลดา มุธุวงศ์ หรือ น้องนุ่น เปิดใจถึงการเสียชีวิตของลูกสาวที่ถูกสามีทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ก่อนจะนำไปเผาอำพรางคดีที่ จ.ปราจีนบุรี โดยเล่าว่า ตอนที่ทราบข่าวลูกสาวหายตัวไปเพราะว่าทะเลาะกับสามีและโดดลงจากรถขึ้นแท็กซี่ ตอนนั้นก็รู้สึกว่ามันแปลกใจแล้ว อีกใจนึงก็คิดว่าลูกสาวน่าจะทะเลาะกับสามีแล้วอยากหนีไปพักที่ไหนสักที่ ประมาณ 2-3 วันคงกลับมา แต่เมื่อมาเห็นข่าว ที่แม่ของนุ่น ให้สัมภาษณ์ ทำให้ยิ่งแปลกใจมากขึ้น คือคำพูดของทอยที่บอกกับแม่นุ่นว่า ให้ทำใจเอาไว้ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตนมองว่าไม่ควรจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ตนก็ไม่อยากจะคิดในแง่ลบเลย จึงไม่กล้าจะเปิดข่าวของลูกดู จนกระทั่งทราบข่าวจากเพื่อนของลูกสาว 

ตนก็รู้สึกเสียใจและโกรธมาก เพราะคิดไม่ถึงว่าทอยจะทำร้ายลูกสาวได้ถึงขนาดนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อปี 2563 ลูกสาวเคยโทรมาบอกตนว่า ถูกทอยทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ถูกทำร้ายร่างกายหน้าลิฟท์ของโรงแรมแห่งหนึ่ง จนนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายกัน ทันทีที่รู้ว่าลูกสาวถูกทำร้ายร่างกาย ตนก็รีบมาหาเลย แต่เมื่อมาถึงก็ไม่เจอทอย เพราะว่าเจ้าตัวไม่กล้าสู้หน้าตน

 

ที่ผ่านมาบอกกับลูกสาวให้เลิกกับผู้ชายคนนี้ เพราะว่าเขาทำร้ายร่างกายและลูกสาวก็รับปากบอกว่าจะเลิก แต่หลังจากนั้นตนก็ไม่ทราบสาเหตุที่ทั้งคู่กลับมาคบหากัน มาทราบอีกครั้ง ลูกสาวก็ตั้งท้องแล้ว และได้ไปทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือ ที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งตนก็ไปร่วมพิธีด้วย แต่ยอมรับว่าไม่เห็นดีเห็นงาม เพราะรู้สึกไม่ชอบผู้ชายคนนี้มาตั้งแต่ต้น แม้ว่าตอนทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือฝ่ายชายจะสัญญาว่าจะดูแลลูกสาวอย่างดี แต่ส่วนตัวไม่เชื่อ เพราะท่าทีของฝ่ายชาย เชื่อไม่ได้ ชอบวางมากทำเป็นคนมีเงินทอง 
 

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทอยเคยใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวของลูกสาวมาด่าตนด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย เชื่อว่าไม่พอใจที่ตนได้กีดกันความรักของทั้งคู่ มีบางครั้งที่จะคอยเตือนอยู่บ้าง แต่ลูกสาวไม่ค่อยฟังเพราะว่ารักผู้ชายคนนี้มาก เมื่อลูกสาวตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนนี้แล้ว เห็นในโลกโซเชี่ยล อวดชีวิตหรูหรา มีความสุข ตนก็คอยดูแลอยู่ห่าง ๆ ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ 


นายชัยยาเชื่อว่า ทอยมีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าเพราะได้สั่งพัสดุเป็นกระเป๋าเดินทางมาส่งที่หน้าบ้าน หลังจากนั้น ก็เกิดเหตุขึ้นและมองว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่โรคจิต เพราะว่าเขามีสติครบทุกอย่าง เชื่อว่าถ้าหากไม่พบศพของลูกสาว จะไม่รับสารภาพ จึงอยากให้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเรื่องการวางแผน และหากกฎหมายบ้านเราศักดิ์สิทธิ์ อยากจะให้คนทำผิดได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต  

 

ส่วนร่างของลูกสาวจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่ใดนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับแม่ของนุ่น แต่ส่วนตัวอยากจะให้นำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่จังหวัดอุบลราชธานีเพราะว่านุ่นเติบโตมาจากที่นั่น โดยมีปู่และย่าคอยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนโต ขณะที่ตอนนี้ลูกของนุ่น ทางปู่กับย่าเป็นคนรับเลี้ยงดูแทน ในขณะที่แม่ของนุ่น ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมกับพูดสั้น ๆ ว่า จะรีบไปจัดการคดีความที่จังหวัดปราจีนบุรี