ศาลสั่ง ‘หมอศัลยกรรม’ คลินิกดัง ทำเสียโฉม 3 ราย เป็นบุคคลล้มละลาย
ศาลสั่ง ‘หมอศัลยกรรม’ คลินิกดัง ทำเสียโฉม 3 ราย เป็นบุคคลล้มละลาย เหยื่อบุกร้องกระทรวงสาธาณสุข ช่วย หลังปัดความรับผิดชอบ
วันที่ 1 มี.ค.2567 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายจากกรณี หมอทำศัลยกรรม ผิดพลาด 3 ราย มายื่นหนังสือ ที่ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ตรวจสอบ หมอศัลยกรรม ว่ามีการสั่งพักใบอนุญาต 2 ปี ตอนนี้ยังมีการประกอบวิชาชีพอยู่หรือไม่ หลังครบกำหนดถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เดือน มิ.ย.2567 แล้ว จะประกอบวิชาชีพได้อีกหรือไม่ เพราะมีผู้เสียหายหลายราย
กัน จอมพลัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2567 พานายอภิภู อายุ 30 ปี พี่ชายของน้องนิ้ง ร้องขอความเป็นธรรมให้กับน้องสาว ที่ไป ศัลยกรรม ที่ คลินิกดัง ย่านรัชดา น้องน่าสงสารมาก จากคนที่สวยมากๆ ต้องป่วยติดเตียง โดยมีการฟ้องเรียนค่าเสียหาย 30 ล้านบาท ต่อมามีผู้เสียหาย 2 ราย ติดต่อมาว่าหมอรักษาผิดพลาดเช่นกัน
เคสแรก เป็นนายแบบหนุ่ม วัย35ปี อาชีพบาร์โฮสต์ ทำ ศัลยกรรม จนหน้าผิดรูป พอกลับไปสอบถามคลินิก ได้คำตอบว่าให้ไปฟ้องเอา พอฟ้องและศาลตัดสินให้หมอกับคลินิกเยียวยา แต่หมอกลับนิ่งเฉย โดยก่อนหน้านี้นายแบบหนุ่ม มีรายได้เดือนละ 100,000 - 200,000 บาท แต่ตอนนี้ไม่สามารถใช้หน้าตาทำมาหากินได้
อีกเคส หญิงวัย 34ปี ศัลยกรรม ทรวงอก แล้วปรากฏว่าหัวนมกลายเป็นเนื้อตาย กลับไปรักษาที่คลินิกเดิม กลับถูกตัดหัวนมทั้งสองข้างออก เปรียบเสมือนผู้พิการ ไม่สามารถให้นมบุตรได้ตลอดชีวิต
กัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้จึงยื่นหนังสือต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ให้ตรวจสอบใบประกอบวิชาชีพ ว่า หมอคนดังกล่าวยังรักษาอยู่ไหม อยากให้ท่านช่วยประสานไปยังแพทย์สภาเพื่อตรวจสอบ รวมถึงคลินิกดังกล่าวมีการเปลี่ยนชื่อหรือไม่ และยังเปิดบริการอยู่หรือไม่
โดยมี นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นผู้รับเรื่อง พร้อมทั้งกล่าวว่า ผู้เสียหายหญิงที่เป็นเจ้าหญิงนิทรา เรื่องเข้าสู่กรรมการเปรียบเทียบของกรมฯแล้ว ได้ปรับฐานรักษาไม่ได้มาตรฐาน โดยเข้ามาสู่กระบวนการ 6-7 เดือน หมอถูกแพทยสภา สั่งพักใบอนุญาต วันที่1ม.ค.2565-มิ.ย.2567
“แพทย์เจ้าของคลินิก ที่เป็นจำเลยอีกคน ในคดีแพทยสภาสั่งพักใบอนุญาต 2 เดือน โดยศาลสั่งให้เป็น บุคคลล้มละลาย จึงไม่สามารถที่เปิดสถานพยาบาลหรือคลินิกที่ไหนได้ จากการตรวจสอบ ทราบว่าเปิดคลินิก 2 แห่ง ที่กรุงเทพฯกับเพชรบุรี เมื่อเป็น บุคคลล้มละลาย ไม่สามารถไปเปิดคลินิกได้ ทางกรมฯจึงสั่งให้ปิดคลินิก หากยังฝ่าฝืนมีโทษจำคุกถึง5ปี”นพ.สุระกล่าว
ด้าน นายแบบหนุ่ม เล่าว่า ใช้บริการคลินิกดังกล่าว เพื่อ ศัลยกรรม ทุบกราม ปรับโหนกแก้ม แต่หลังทำเสร็จ โหนกแก้มผิดรูป เป็นรอยบุ๋ม คลินิกจึงให้เข้าไปแก้ไข แต่ก็เป็นเหมือนเดิม พอกลับไปสอบถามที่คลินิกอีกครั้ง ได้คำตอบว่า ให้ไปฟ้องเอา
“รู้สึกเครียดมาก จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลอื่น จนทราบว่า ทางคลินิกไม่ได้ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ในการทำศัลยกรรม หรือเครื่องมือเจีย แต่เป็นการใช้ค้อนกับสิ่ว ทำให้มีผลทางนิติวิทยา กระดูกออกไม่หมดเป็นรอยไม่เท่ากัน จึงทำให้ใบหน้าผิดรูป จากนั้นจึงฟ้องศาล โดยศาลตัดสินให้หมอ ชดใช้ค่าเสียหาย 1.1ล้านบาท แต่ทางคลินิกกลับนิ่งเฉย ไม่มีการเยียวยาใดๆ ยังไม่ได้เงินสักบาท” นายแบบหนุ่มกล่าว
ขณะที่ผู้เสียหายที่ ศัลยกรรม เต้านม กล่าวว่า หลังเกิดเรื่อง ได้เรียกค่าเสียหาย 2 ล้านบาท แต่ทางคลินิกบอกว่าให้ไปฟ้องเอา โดยไม่มีการขอโทษ จากนั้นมีการไกล่เกลี่ยกัน ทางคลินิกจะจ่ายที่ 8 แสนบาท โดยขอผ่อนจ่าย แต่ยังจ่ายมี่ครบ ตอนนี้ได้มาเพียง 3 แสนบาทเท่านั้น จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้
“ผลกระทบที่ตามมา เป็นไบโพลาร์ เป็นโรคซึมเศร้า ต้องกินยาทั้งเช้าเย็น หยุดกินไม่ได้ ทำงานประจำไม่ได้ สภาพร่างกายเหมือนคนพิการที่หน้าอกไปแล้ว”หญิงผู้เสียหาย กล่าว