'ให้ออก' ทันที 'ส.ต.ท.' คอมมานโด ถ่ายคลิป 'แบล็คเมล์' แฟนเก่า
สั่ง 'ให้ออก' ทันที 'ส.ต.ท. คอมมานโด' ถ่ายคลิป 'แบล็คเมล์' แฟนเก่า เดินหน้าสอบ 'วินัย' พร้อมซัพพอร์ตข้อมูลดำเนินคดี 'อาญา'
วันที่ 8 มี.ค.2567 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เรียกประชุมกรณี ส.ต.ท. สุเมธ (สงวนนามสกุล) ตำรวจคอมมานโด ถ่ายคลิปลับกับแฟนเก่า และส่งแชตข่มขู่แบล็คเมล์ฝ่ายหญิง โดยมีการเชิญผู้บังคับบัญชาของหน่วย คอมมานโด ร่วมประชุมด้วย โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
จากนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสียหาย จะปล่อยไปไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาได้กำชับเรื่องนี้มาเช่นกัน ผลการประชุม มีมติให้ ส.ต.ท. สุเมธ ออกจากราชการไว้ก่อน ทันที และวันนี้ได้เรียกตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง เจ้าตัวมีสีหน้าเรียบเฉย การสอบสวนจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า ได้เงินจากการนำคลิปไปปล่อยในกลุ่มลับหรือไม่ หรือมีพฤติกรรมค้ามนุษย์หรือไม่
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องส่วนตัวของตำรวจนายนี้ ที่มีการบันทึกคลิปวิดีโอและมีการนำมาโพสต์ลงโซเชียล ต้องตรวจว่าเกิดจากการทะเลาะกันหรืออย่างไร มีการบีบบังคับเพื่อหวังอะไรหรือไม่ หรือทำไปเพื่อความสนุก
และก่อนหน้านี้ ส.ต.ท.สุเมธ ยอมรับผิดและชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายบางคน ฝากถึงผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อให้มาร้องที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันจะทำอย่างตรงไปตรงมา ส่วนประเด็นอ้างว่าทำเป็นขบวนการ “แก๊งถ้ำเสือ เมืองทอง” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ถ้าพบใครมีส่วนเกี่ยวข้อง จะบุกถ้ำเสือให้หมด
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า ในทาง วินัย มีคำสั่งให้ ส.ต.ท. คนดังกล่าวออกจากราชการ ไว้ก่อน ก่อนจะมีการตรวจสอบเพื่อดำเนินการทาง วินัย ส่วนคดี อาญา ทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักรับเรื่องไว้ดำเนินคดีแล้ว ถึงแม้ว่ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจะไม่มีอำนาจดำเนินคดี แต่หากพบว่ามีคนในหน่วยหรือผู้ใต้บังคับบัญชามีพฤติกรรม ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจะช่วยสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำความผิดถึงที่สุด
“จากที่ได้พูดคุยกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่ามีมูลจึงอยากให้มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว การพิจารณาให้ออกไว้ก่อนในวันนี้ เพื่อให้สิ้นสภาพของการเป็นตำรวจ และทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างเต็มที่ ได้กำชับให้เร่งตรวจสอบโดยเร็วที่สุด ทั้งในด้านคดี ทางวินัยและอาญา ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือ จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างถึงที่สุด”ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าว