ศาลยุติธรรมเตรียมเปิดแผนก 'คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา'
ศาลยุติธรรมเตรียมเปิดแผนก 'คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา' จัดผู้พิพากษาเชี่ยวชาญเฉพาะด้านคุมอาชญกรรมไซเบอร์
19 มี.ค. 2567 มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ลงนามโดยนางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรมได้เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา
ความว่าโดยที่อาชญากรรมที่ใช้วิธีการทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีรูปแบบการกระทำความผิดที่ชับซ้อนตามพัฒนาการทางเทคโนโลยีซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพยานหลักฐานในคดีส่วนมากอยู่ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับการใช้มาตรการตามกฎหมายในบางกรณีเพื่อป้องกัน
หรือรับมืออาชญากรรมประเภทนี้และภัยคุกคามทางไซเบอร์ต้องอาศัยคำสั่งศาล
ดังนั้น เพื่อให้คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญาและคำร้องขอใช้มาตรการตามกฎหมายได้รับการพิจารณาโดยผู้พิพากษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและทันท่วงที อันจะทำให้การพิจารณาพิพากษาคดีและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้นในศาลอาญา
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม
คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมออกประกาศให้จัดตั้งแผนกในศาลอาญา ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า "ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา"
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ในประกาศนี้ "คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี" หมายความว่า คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคลที่กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และคดีดังต่อไปนี้ไม่ว่าจะมีข้อหาอื่นหรือความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องกันรวมอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม
- (1)คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคลที่กระทำความผิดฐานฉ้อโกง กรรโซก หรือรีดเอาทรัพย์โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ
- (2) คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคลที่กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
- (3) คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคลที่กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อ 4 ให้จัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา โดยให้มีอำนาจหน้าที่
ดังต่อไปนี้
- (1) พิจารณาพิพากษาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่อยู่ในเขตอำนาจและที่โอนมาตามกฎหมาย
- เว้นแต่คดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของแผนกคดียาเสพติดและแผนกคดีค้ามนุษย์
- (2) พิจารณาและมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำ
- ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายว่าด้วย
- การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ข้อ 5 ให้มีผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญาเป็นผู้รับผิดชอบงานในแผนกหนึ่งคน และให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาจัดให้ผู้พิพากษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจำนวนตามที่เห็นสมควรเป็นผู้พิพากษาประจำแผนกมีหน้าที่รับผิดชอบ
ในการพิจารณาพิพากษาคดีและงานของแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา ตลอดจน
ช่วยเหลือผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในการบริหารและดำเนินงานต่าง ๆ
ของแผนกให้เป็นไปโดยเรียบร้อย
ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาอาจมอบหมายให้ผู้พิพากษาอื่นนอกจากวรรคหนึ่งเป็นองค์คณะในการพิจารณพิพากษาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีก็ได้
ข้อ 6 แผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญาจะเริ่มทำการเมื่อใด ให้เป็นไปตามประกาศของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา
ข้อ 7 ให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญารักษาการตามประกาศนี้
ประกาศ ณ วันที่ 13 มี.ค.2567
ที่มา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา