ข่าว

'อดีตผู้ว่าฯ' พยานคดี 'บิ๊กโจ๊ก' แจงไม่รู้จักส่วนตัว หลังถูกอ้างชื่อขายพระ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด' วัย 89 ปี พยานคนสำคัญคดี 'บิ๊กโจ๊ก' สำแดงทรัพย์สินเท็จ ขึ้นโรงพักบางยี่ขันลงบันทึกประจำวัน ยืนยันไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว หลังถูกอ้างชื่อซื้อขายพระเครื่อง

จากกรณีที่มีผู้เข้าร้องทุกข์ตำรวจ บก.ปปป. ให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับ นายสมบัติ , นายจัตุรงค์  และ น.ส.อารยา  3 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ในความผิดฐาน "ร่วมกันกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่" รวมถึงแจ้งดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. , พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ และ นายสมภพ หรือ  เฮียอั้ง เมืองชล เซียนพระชื่อดัง ในฐานความผิดเป็นผู้ใช้หรือตัวการร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. กรณีดำเนินการหรือสร้างพยานหลักฐานเท็จเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประกอบการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่อมา พนักงานสอบสวน บก.ปปป.รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดส่งต่อให้กับทาง ป.ป.ช. ดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย  

 

ล่าสุด วานนี้ (15 เม.ย. 2567)  อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด วัย 89 ปี ซึ่งเป็นพยานคนสำคัญในคดีดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วรธน อิ่มวิทยา รอง สว.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่เคยรู้จักกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นการส่วนตัว หลังถูกนำชื่อไปแอบอ้างในการสร้างพยานหลักฐานเท็จชี้แจงที่ไปที่มาทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ 

 

 

 

โดย อดีตผู้ว่าฯ ให้การว่า ไม่เคยพบเจอหรือรู้จักเป็นการส่วนตัวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตามคำกล่าวอ้างของ  เฮียอั้ง เมืองชล เซียนพระชื่อดัง ที่เคยปรากฏในสื่อต่างๆ ซึ่งมีการอ้างว่า เหตุที่ต้องให้เงินจำนวนมากกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จากการเช่าพระแต่ละองค์ เพราะว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นคนกลางแนะนำติดต่อให้เช่าพระจากตน 

 

ทั้งนี้จากคำให้การของ อดีตผู้ว่าฯ  ข้อมูลส่วนใหญ่ค่อนข้างสอดคล้องกับพยานหลักฐานต่างๆ ที่พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ตรวจพบเจอในเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  โดยเฉพาะบันทึกข้อมูลการสนทนาต่างๆ ซึ่งข้อมูลหลักฐานเหล่านี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รวบรวมส่งให้กับทาง ป.ป.ช. พิจารณา ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา 

สำหรับชื่อผู้ที่ถูกแจ้งความเอาผิดในคดีดังกล่าวนั้น มีด้วยกัน 6 คน ประกอบด้วย

1. นายสมบัติ  พบหลักฐานว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมกันทำเอกสารชี้แจงที่มาทรัพย์สิน ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  ด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ ปกปิดแหล่งที่มาทรัพย์สินหลายกรณี อาทิ  จัดแจงสร้างหลักฐานที่มาของเงินค่านายหน้าจากการซื้อขายพระเครื่อง เพื่อชี้แจงที่มาของอาวุธปืน รวมถึงใช้ตำแหน่งในการสร้างเรื่องให้มีการ โต้-ตอบหนังสือให้ชี้แจง ของ ป.ป.ช.เพื่อยืดระยะเวลาช่วยเหลือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

 

ทั้งนี้จากการสืบสวนยังพบความเชื่อมโยง ระหว่างนายสมบัติกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยพบว่า นายสมบัติ เคยได้รับความช่วยเหลือจากทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในการช่วยเหลือพวกพ้องให้ได้รับตำแหน่งตามที่ต้องการ รวมถึงเคยได้รับการช่วยเหลือรับรองความประพฤติให้ลูกน้องของตน และ ช่วยจัดหาวัคซีนให้ลูกสาวของนายสมบัติ

 

2. น.ส.อารยา  เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. มีพฤติกรรมในการใช้ตำแหน่งหน้าที่แก้ไขเอกสารคำชี้แจงที่มาทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งเป็นเอกสารลับ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการส่งข้อมูลเอกสารหลายครั้ง ผิดหลักขั้นตอนระบบงานของ ป.ป.ช. และเป็นการกระทำเกินอำนาจหน้าที่ของผู้ประสานงาน

ทั้งนี้เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเจ็บป่วยของมารดาตนเอง จากเครือข่ายของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่คอยช่วยดูแล 

 

3.นายจัตุรงค์  เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. หลังพบหลักฐานว่าได้ร่วมกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ จัดทำเอกสารชี้แจงทรัพย์สินของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วยข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยเป็นผู้พิมพ์เอกสารยกร่างคำชี้แจงดังกล่าวทั้งที่ปรากฏฎข้อมูลอยู่แล้วว่าเป็นเท็จ เช่นกรณีที่มาของรถยนต์เล็กซัส,ทำเอกสารโอนหุ้นลงวันที่ย้อนหลัง,ยอดเงินซื้อขายที่ดินและรายละเอียดเกี่ยวกับนายหน้าซื้อขายพระเครื่อง

โดยมูลเหตุแรงจูงใจที่ทำให้นายจัตุรงค์ ต้องทำเช่นนั้นเนื่องจาก เพื่อให้ภรรยาของตนเองได้รับการแต่งดั้งเป็นข้าราชการตำรวจสัญญาบัตรผ่านการอบรมหลักสูตร กอส. รุ่นที่ 49 

 

4.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  เป็นคนสั่งการให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ดำเนินการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ให้แก้ไขและจัดทำเอกสารคำชี้แจงบัญชีทรัพย์สินเท็จเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินตนเอง 

 

5. พ.ต.ท.คริษฐ์ อายุ 38 ปี ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จัดทำเอกสารชี้แจงทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อันมีข้อมูลที่ป็นเท็จ และเป็นผู้พิมพ์เอกสารยกร่างค่าชี้แจงดังกล่าวทั้งที่ปรากฎข้อมูลอยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลเท็จเช่นกรณี ที่มาของรถยนต์เล็กซัส,ทำเอกสารโอนหุ้นลงวันที่ย้อนหลัง,ยอดเงินซื้อขายที่ดินและรายละเอียดนายหน้าซื้อขายพระเครื่อง

 

6. นายสมภพ หรือ เฮียอั้ง เมืองชล อายุ 66 ปี  มีพฤติกรรมในการช่วยจัดทำเอกสารที่มีข้อมูลอันเป็นเท็จในการชี้แจงการซื้อ-ขายพระเครื่องเพื่อสร้างแหล่งที่มาของเงินซื้อปืน 
 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ