ข่าว

ปิดจ๊อบ 6 ชม. รวบ 'หนุ่มอินเดีย' มือแทงสาวไทย 31 แผลดับ ก่อนหนีออกนอกประเทศ

ปิดจ๊อบ 6 ชม. รวบ 'หนุ่มอินเดีย' มือแทงสาวไทย 31 แผลดับ ก่อนหนีออกนอกประเทศ

16 เม.ย. 2567

ปิดจ๊อบล่า 'หนุ่มอินเดีย' โหด กระหน่ำ 'แทงสาวใหญ่' 31 แผล ดับคาโรงแรมย่านตลาดพลู ก่อนขึ้นรถตู้ หนีไป จ.กาญจนบุรี ตำรวจรวบได้ทันก่อนหนีออกนอกประเทศ

16 เม.ย. 2567  พ.ต.ท.วงศกร แต่งตั้ง สว.(สอบสวน) สน.ตลาดพลู รับแจ้งเหตุฆาตกรรม ภายในห้อง พักของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านตลาดพลู  กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผบก.น.8  พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.ชรินทร์ บัวเผื่อนหอม ผกก.สน.ตลาดพลู ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บกน.8 ฝ่ายสืบสวน สน.ตลาดพลู เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชและอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

หนุ่มอินเดียว กระหน่ำแทงสาวใหญ่ 31 แผล ดับคาโรงแรมย่านตลาดพลู

 

 

ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมสูง 5 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ชั้น 2 ภายในห้อง พบศพ น.ส.สุกัญญา (สงวนนามสกุล)  อายุ 51 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง กางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ลำตัวทั้งหน้า หลัง รวม 31 แผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ใกล้กันพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายสภาพแบตฯหมดตกอยู่ พร้อมกับมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุตเปื้อนเลือด 

 

บริเวณหน้าห้องน้ำยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายวางชาร์จแบตไว้อีก 1 เครื่อง ระหว่างที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยังมีเจ้าหนี้โทรเข้ามาทวงหนี้จากผู้ตายอีกด้วย

 

 

มีดที่ใช้ก่อเหตุ แทงสาวไทยดับ

 

จากการตรวจสอบสภาพภายในห้องข้าวของกระจายเกลื่อน เลือดกระจายเปื้อนกำแพงไปทั่วห้อง ยาวไปถึงในห้องน้ำและห้องแต่งตัว บนโต๊ะแต่งหน้ายังพบหมวกกันน็อคแบบเต็มใบสีน้ำเงินของคนร้ายวางอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นทรัพย์สินผู้ตายยังอยู่ครบ

 

สอบถาม พนักงานต้อนรับของโรงแรม  ให้การว่า ผู้ตายเข้ามาเปิดห้องพักดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีผู้ชาย เป็นชาวอินเดีย มาพักอยู่ด้วย ซึ่งผู้ตายจะมาที่ห้องนี้ช่วงเช้าของทุกวัน และกลับไปช่วงค่ำ โดยชายชาวอินเดีย ใช้รถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-เทา ทะเบียยนหมวดจังหวัดนครปฐม 

 

ก่อนเกิดเหตุ ช่วงใกล้เที่ยงได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงในห้องเกิดเหตุ จึงโทรศัพท์ขึ้นไปหาผู้เช่า ปรากฏว่า ฝ่ายชายเป็นผู้รับ แล้ววางสายถึง 2 ครั้ง สักพักเสียงทะเลาะก็เงียบไป จึงคิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว จนกระทั่งบ่ายโมงเศษ เห็นชายคนดังกล่าวเดินลงมาจากชั้น2 ทำทีเล่นโทรศัพท์ แล้วเดินออกไปหน้าปากซอยอย่างใจเย็น

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สอบถามข้อมูลจากญาติผู้เสียชีวิต

 

 

ขณะเดียวกัน น้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าทราบเรื่องการเสียชีวิตของพี่สาวจากหลาน เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตพาแม่ไปฟอกไต โดยเดินทางไปพร้อมกับพี่เลี้ยงอีกคน   หลังจากส่งแม่เข้าห้องฟอกไตก็เลี่ยงออกมาธุระ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปไหน บอกแต่ว่าบ่ายโมงจะกลับมา กระทั่งบ่ายตำรวจโทรมาแจ้งกับพี่เขยว่า พี่สาวถูกฆาตกรรม เท่าที่ทราบคนร้ายเป็นชาย ชาวอินเดีย แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตัวคนร้าย 

 

ด้านลูกชาย วัย 20 ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ที่บ้านไม่มีใครรู้เรื่องแม่เลย แม่ปิดเรื่องนี้มาตลอด เช้าก็ออกไปทำงาน กลับมาก็ปิดโทสับ ปกติ ออกไปก็ ตี 5 บ้าง 6 โมงบ้าง เย็นก็กลับเข้ามา 6 โมงหรือ ทุ่มบ้าง แม่ทำงานเป็นแม่บ้าน แต่ไม่รู้ที่ไหน เพราะเปลี่ยนหลายที่  แม่ก็อยู่กับพ่ออยู่กับที่บ้านด้วยกัน  เมื่อเช้าแม่บอกว่าจะพายายไปฟอกไต แต่ไม่รู้ว่าจะที่โรงแรมที่เกิดเหตุได้อย่างไร 

 

ลูกชายของผู้เสียชีวิต ยังบอกว่าก่อนหน้านี้ แม่บอกว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์  ถูกผู้ชายคนหนึ่งแฮกเฟซบุ๊กแม่ จึงไปแจ้งความและจับกุมชายคนดังกล่าว ส่งกลับประเทศแล้ว แต่เมื่อถามเรื่องรูปผู้ชายในเฟซบุ๊ก แม่ก็ปฏิเสธมาตลอด  ซึ่งภาพที่เห็นดูค่อนข้างสนิทสนมกันมาก และก่อนหน้านี้เคยเห็นแม่มีบาดแผล พอถามก็บอกว่าตกรถ รอยช้ำตามแขน  พอตอนนี้มาเกิดเรื่องและเห็นภาพ ก็กลัวว่า คนร้ายจะหนีออกนอกประเทศ ส่วนทรัพย์สิน ไม่มีอะไรหายไป คิดว่า ปมเหตุน่าจะมาจากเรื่องเงินมากกว่า หวังว่าตำรวจจะตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด

 

จากการตรวจสอบรายชื่อคนร้ายรายนี้ทราบชื่อ นายยาเดฟ อายุ 32 ปี ชาวอินเดีย ซึ่งถูกผลักดันให้ออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เข้ามาเช่ารถจยย.ที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ขี่รถจักรยานยนต์ มาพักอยู่กับ น.ส.สุกัญญา ผู้เสียชีวิต ที่แอบคบหากันในห้องที่เกิดเหตุ 

 

น.ส.สุกัญญา ผู้เสียชีวิต มีอาชีพเป็นแม่บ้าน  ทุกวันที่ผู้ตายออกจากบ้าน จะบอกกับลูกว่าออกไปเยี่ยมยายที่ป่วยติดเตียงที่บ้านพักย่านจอมทอง แต่ไม่เคยไปถึงบ้านยาย

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสคนร้าย หลังก่อเหตุเดินไปขึ้นจยย.รับจ้าง บริเวณปากซอยวุฒากาศ 14 ว่าจ้างให้ไปส่งที่วินรถตู้ ข้างห้างพาต้า ปิ่นเกล้า ระบุปลายทางไปอ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ประสานตำรวจ จ.กาญจนบุรี และระดมกำลังกันไปที่ จ.กาญจนบุรี  เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้เป็นการด่วนแล้ว
  
 

ล่าสุด มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามจับกุมตัว ชาวชาวอินเดีย ผู้ก่อเหตุไว้ได้แล้ว ขณะหลบหนีไป จ.กาญจนบุรี เพื่อเตรียมหนีออกนอกประเทศ แต่ถูกจับกุมตัวไว้ได้ก่อน 

 

 

ตร.ตามรวบชายชาวอินเดีย มือแทงสาวใหญ่ ดับคาโรงแรม

 

 

ตร.ตามจับกุม ชายชาวอินเดีย มือแทงสาวไทย 31 แผล ได้ที่ จ.กาญจนบุรี