ข่าว

แม่ร้อง 'ปวีณา' คาใจปมลูกสาวเสียชีวิตที่บาร์เรนนาน 1 ปี เพิ่งรู้ข่าว

แม่ร้อง 'ปวีณา' คาใจปมลูกสาวเสียชีวิตที่บาร์เรนนาน 1 ปี เพิ่งรู้ข่าว

20 เม.ย. 2567

แม่ร้อง 'ปวีณา' ลูกสาวเสียชีวิตที่บาห์เรนนาน 1 ปี สถานทูตเพิ่งแจ้งข่าว คาใจปมการตาย วอนคนไทยในบาห์เรนช่วยบริจาค ค่าใช้จ่ายส่งศพกลับไทย ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

20 เม.ย. 2567  ที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี  นางเอม (นามสมมุติ) เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่า น.ส.บี (นามสมมุติ) ลูกสาว อายุ 31 ปี ซึ่งไปทำงานที่ร้านอาหารที่ประเทศบาร์เรนตั้งแต่ปี 2564  กระทั่งปี  2566 ที่ผ่านมา ลูกติดต่อมาบอกว่า ได้อยู่กินกับสามีชาวบาร์เรน และสามีชอบหาเรื่องทะเลาะทำร้ายร่างกายเป็นประจำ และยังส่งภาพบาดแผลรอยฟกช้ำตามตัว และคลิปวิดีโอร้องไห้มาให้แม่ดู แม่สงสารลูกจับใจแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร 

แม่ร้องปวีณา คาใจปมลูกสาวเสียชีวิตที่ประเทศบาร์เรน

 


ต่อมาวันที่ 14 เม.ย. 2566 ลูกสาวยังโพสต์เฟซบุ๊กเป็นปกติ ซึ่งแม่ก็ไม่คิดว่าโพสต์นั้นจะเป็นโพสต์สุดท้าย แต่หลังจากนั้นแม่ก็ไม่สามารถติดต่อลูกได้อีก ส่งแชตข้อความไปก็ไม่มีการเปิดอ่าน และไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากลูกสาวอีกเลย

 

เมื่อช่วงเดือน ม.ค. 2567 ที่ผ่านมาแม่ได้ให้ญาติช่วยติดต่อไปยังสถานทูตไทย ขอให้ช่วยประกาศตามหาตัว น.ส.บี ในชุมชนคนไทยในบาห์เรนแต่ก็ไม่ได้รับการแจ้งข้อมูลใดๆ จากนั้นน้องสาวของ น.ส.บี จึงได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตามหาพี่สาวในเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มคนไทยในประเทศบาห์เรน ช่วยติดตามหาแต่ก็ยังไม่มีวี่แววเช่นกัน 


กระทั่งวันที่ 18 เม.ย.2567 ที่ผ่านมา ครอบครัวได้รับการติดต่อจากสถานทูตว่า พบศพหญิงสาว ซึ่งยังไม่สามารถระบุสัญชาติได้ เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.2566 ศพถูกเก็บไว้อยู่ที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาลใน ประเทศบาห์เรน มานาน 1 ปีแล้ว พร้อมกับให้แม่และญาติไปพบเพื่อดูรูปศพ ซึ่งแม่จำรอยสักที่ขาของ น.ส.บี ได้

 

โดยแพทย์ที่โรงพยาบาลประเทศบาห์เรนระบุสาเหตุการตายว่า "ปอดและหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นพิษ" ซึ่งแม่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเห็นในรูปถ่ายของศพมีรอยช้ำตามตัว และก่อนที่ลูกสาวจะหายไปเคยส่งรูปบาดแผลฟกช้ำตามตัวมาให้แม่และน้องดู พร้อมบอกว่า ถูกสามีชาวบาห์เรนทำร้ายบ่อยครั้ง จึงคาดว่าการเสียชีวิตของลูกสาวอาจมีเงื่อนงำ เพราะเคยถูกสามีชาวบาห์เรนทำร้ายร่างกายเป็นประจำก่อนจะขาดการติดต่อไป 

แม่ร้องปวีณา คาใจปมลูกสาวเสียชีวิตที่ประเทศบาร์เรน

 

 

และแม่ยังสงสัยว่าลูกสาวเสียชีวิตไปนานถึง 1 ปี ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงเพิ่งจะแจ้งญาติ แต่ด้วยครอบครัวฐานะยากจนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือประสานนำศพลูกสาวกลับไทยเพื่อมาชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง  

 

 

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศเพื่อดำเนินการส่งศพน.ส.บี กลับประเทศไทย และขอน้ำใจคนไทยในบาห์เรนช่วยเหลือบริจาคเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งศพ น.ส.บี กลับมา โดยนางปวีณา จะประสานสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ในการส่งศพ น.ส.บี ไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เพื่อให้ความกระจ่างกับแม่และญาติ น.ส.บี 

 

นางปวีณา กล่าวว่า ขอเตือนสาวไทยที่คิดจะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ควรจะตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เนื่องจากเสี่ยงที่จะถูกหลอกค้าประเวณี ค้ามนุษย์ บังคับให้เสพยาเสพติด บางรายถึงขั้นถูกทำร้ายทุบตีจนเสียชีวิต

 

ซึ่งจากสถิติมูลนิธิปวีณาฯ ตั้งแต่ปี 2547-2565  พบว่าสาวไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีในต่างประเทศ ที่เป็นอันดับ 1 คือ บาห์เรน จากนั้นในปี 2566 สาวไทยถูกหลอกไปค้าประเวณีถึง 219 ราย อันดับ 1 คือ ดูไบ 56 ราย อันดับ 2 คือ เมียนมา 54 ราย อันดับ 3 คือ บาห์เรน 25 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะช่วยเหลือไม่ได้ทุกราย จากสถิติมูลนิธิปวีณาฯ ได้ช่วยเหลือสาวไทยที่เสียชีวิตในต่างประเทศโดยไม่ทราบสาเหตุหลายรายและการติดตามคดีก็เป็นไปได้ยาก