
สืบนครบาล รวบ 'แดนหัวใจระเบิด' ลวงสาวย่ำยี-ถ่ายคลิป-บังคับเสพกัญชา
'สารวัตรแจ๊ะ' นำทีม 'สืบนครบาล' ตะครุบตัวกลางถนน 'แดนหัวใจระเบิด' ลวงเด็กสาวย่ำยี-ถ่ายคลิป-บังคับเสพกัญชา แถมลั่น 'ตำรวจทำอะไรกูไม่ได้'
28 เม.ย.2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดดรีมทีม สืบสวนนครบาล บุกรวบตัว นายอัฐษฎา หรือ แดนหัวใจระเบิด อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี โดยกล่าวหาว่า "พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้"
ก่อนหน้านี้ ผู้เสียหาย เป็นหญิงสาววัย 17 ปี ขอความช่วยเหลือผ่านเพจสืบนครบาล ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวนายอัฐษฎา หรือ แดนหัวใจระเบิด เนื่องจากผู้ต้องหา ส่งข้อความมาข่มขู่ให้กลับไปมีความสัมพันธ์ หลังจากปล่อยคลิปลับของผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่ยอมและไปแจ้งความ ผู้ต้องหาจึงตามรังควานจนผู้เสียหายเกิดความเครียด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันวาเลนไทน์ปี 2567 ที่ผ่านมา
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ได้ออกหมายจับ นายอัฐษฎา หรือ แดนหัวใจระเบิด อายุ 18 ปี เธอได้ขอความช่วยเหลือมาที่เพจสืบนครบาลให้ช่วยติดตามจับกุมอีกทาง
พล.ต.ต.ธีรเดช จึงส่งชุดสารวัตรแจ๊ะออกไล่ล่า กว่า 18 ชั่วโมงของการลาดตระเวน ชุดสืบสวนก็พบเบาะแสว่าคนร้ายจะไปเสพกัญชากับพลพรรคสายเขียวย่านจรัญสนิทวงศ์ จึงวางกำลังในพื้นที่จนพบตัวคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากซอย และผู้เสียหายยืนยันว่าคือคนร้าย การไล่ล่าบนท้องถนนจึงเกิดขึ้น
ชุดสืบสวนขับขี่ไล่ล่าไปถึงบริเวณ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 85 แล้วเกิดไหวตัวทัน ผู้ต้องหากลับรถกะทันหันเพื่อหลบหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ สารวัตรแจ๊ะ สั่งชุดสืบสวนปาดหน้าและเข้าชาร์จจับกุมตัวกลางถนนทันที
โดยหลังจับกุมตัว คนร้ายได้นำพาชุดสืบสวนไปตรวจค้นบ้านพักทำให้ชุดสืบสวนได้พบกับเด็กสาววัย 14 ปี ที่ถูกคนร้ายล่อลวงมา ซึ่งเมื่อชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่า Miss Call ในโทรศัพท์ของเด็กสาววัย 14 ปี มีญาติของเธอพยายามติดต่อกับเธอเกือบ 100 สาย ชุดสืบสวนรีบติดต่อไปยังผู้ปกครองของเด็กสาวทำให้ทราบว่า เด็กสาวรายนี้เธอหลบหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่วันสงกรานต์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนยังพบว่าคนร้ายได้ถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับเด็กสาวไว้จำนวนมาก และยังมีการแชทสนทนาเพื่อขายคลิปลับเหล่านี้อีกด้วย
หลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ขยายผลการจับกุมจนทราบว่าตลอดเวลาที่คนร้ายล่อล่วงเด็กสาวรายนี้มานั้น ได้ลงมือกระทำชำเรา , ถ่ายคลิปวีดิโอ และยังบังคับให้เสพกัญชา
ในชั้นจับกุม นายอัฐษฎา ให้การรับสารภาพ โดยให้การว่ารู้จักกับผู้เสียหาย หญิงสาวอายุ 17 ปี เมื่อประมาณกลางเดือน ก.พ. 2566 คบหากันได้ประมาณ 9 เดือน จนประมาณเดือน ม.ค. 2567 ตนเกิดนอกใจผู้เสียหาย ไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งจนถูกผู้เสียหายจับได้ จึงขอเลิกกับตน แต่ตนไม่อยากเลิกคบกัน จึงขู่กับผู้เสียหายว่า ถ้าเลิกกันจะโพสรูปโป๊ คลิปโป๊ของผู้เสียหายให้คนอื่นเห็น
ผู้เสียหายไม่ยอมกลับมาคืนดีด้วย ทำให้รู้สึกโกรธมาก จึงเอารูปโป๊ของผู้เสียหายไปโพสต์ลงในคอมเมนท์เฟซบุ๊กของผู้เสียหาย ให้คนอื่นเห็น เพื่อให้ผู้เสียหายอับอายและยอมกลับมาคืนดีกับตน แต่เมื่อโพสไปแล้วผู้เสียหายได้พาผู้ปกครองเข้าแจ้งความที่ สน.บางขุนเทียน
ตนก็โต้ตอบไปแชทผู้เสียหายว่า "กูไม่กลัว ตำรวจทำอะไรกูไม่ได้หรอก อากูเป็นตำรวจ พี่กูก็เป็นทหาร อย่างมากก็แค่เสียเงิน กูไม่อยากให้เงินผู้หญิงที่เคยโดยข่มขืนแบบมึง" จากนั้นผู้เสียหายจึงดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ตนก็ยังไปเยาะเย้ยผู้เสียหายอีกว่า "ตำรวจจับกูไม่ได้หรอก กูไม่อยู่บ้านยังไงตำรวจก็หากูไม่เจอ" ตอนนั้นตนยอมรับว่าทำไปพูดไปเพราะความโกรธและความคึกคะนอง ไม่มีญาติเป็นตำรวจหรือทหารแต่อย่างใด
ส่วนเด็กสาวที่เจ้าหน้าที่พบที่บ้านพักนั้น ผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นแฟนใหม่ของตน เพิ่งเจอกันเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา จากนั้นได้คบหากันเป็นแฟนกันโดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองของแฟนตนไม่ทราบ โดยให้แฟนใหม่ของตนโกหกที่บ้านว่า ปิดเทอมขอไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนผู้หญิง จากนั้นจึงมาอยู่กินกับตนเรื่อยมาตั้งแต่หลังสงกรานต์ โดยไม่ให้แฟนใหม่ของตนรับโทรศัพท์จากผู้ปกครอง เพราะไม่อยากให้ทราบเรื่อง
จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหามีคดีติดตัว 3 คดี คือ
1.ปลายเดือน มี.ค. 67 ได้ก่อเหตุใช้มีดแทงวัยรุ่นที่บริเวณสะพานพุทธยอดฟ้า
2.ต้นเดือน เม.ย. 67 ก่อเหตุขโมยยาบำรุงเซ็กซ์ในร้านสะดวกซื้อ สาขาซอยพระราม 2 ซอย 20 และ
3.กลางเดือน เม.ย. 67 ก่อเหตุรุมทำร้ายนายตู้ ที่เอกชัยซอย 8
ส่วนที่ผู้ต้องหามีฉายาว่า แดนหัวใจระเบิด เพราะว่าสักลายรูปหัวใจระเบิดบริเวนหน้าอก แต่ยังสักไม่เสร็จเพราะช่างที่สักให้ถูกสืบนครบาลจับไปเมื่อวันก่อนที่ จ.ภูเก็ต
หลังจับกุมตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป