ข่าว

หนุ่มอุดรฯ ถูกล้วงกระเป๋า ไร้เงินติดตัว เดินเท้าเปล่ากลับบ้าน 700 กม.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หนุ่มโดนล้วงกระเป๋า - ไร้เงินติดตัว เดินเท้าเปล่า 700 กิโลเมตร เจอ รปภ.ใจดีให้จักรยานปั่นกลับบ้าน ที่อุดรธานี

ญาติเฝ้ารอ กรณีมีพลเมืองไปพบชายคนหนึ่งเดินเท้าเปล่าจูงจักรยานข้างถนนสาย อ.หนองหาน-กุมภวาปี บริเวณบ้านหนองบัวแดง ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี จึงเข้าไปสอบถาม ทราบว่าชื่อนายอุ๊ด อายุ 50 ปี ชาวบ้านเมืองนาซำ ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เจ้าตัวบอกเดินเท้าเปล่ามาจากสถานีรถไฟที่กรุงเทพฯ หลังถูกโจรล้วงกระเป๋า ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียวและตั๋วรถไฟก็โดนขโมยไปด้วย จึงต้องเดินเพื่อจะกลับบ้าน 

พอมาถึงสระบุรี มี รปภ.ใจดีมอบจักรยานให้ปั่นก็เดินทางมาเรื่อยๆ ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน จนมีพลเมืองดีมาพบ ต่อมา แอดมินบ้านดุงอัพเดตได้นำรถตู้มารับไปส่งถึงบ้านที่บ้านเมืองนาซำ ต.นาไหม ท่ามกลางความดีใจของญาติๆ แต่ญาติบางคนถึงกับช็อกที่ได้เจอนายอุ๊ด หลังจากติดต่อไม่ได้กว่า 20 วัน นึกว่าตายไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเมืองนาซำ ต.นาไหม ซึ่งเป็นบ้านของพี่สาว พบกับนายอุ๊ดพร้อมภรรยา มีญาติ ๆ และเพื่อนบ้านเดินทางมาเยี่ยมถามข่าวคราวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าตัวมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวว่า ตนไปทำงานรับจ้างก่อสร้างอยู่ที่บ้าน รปภ.ใจดีให้จักรยาน ภรรยาที่ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ก็อยากกลับบ้านเทศกาลสงกรานต์ เพื่อมาเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง ก่อนมาภรรยาให้เงินติดตัวมา 1,100 บาท นั่งรถโดยสารจาก อ.บ้านแหลม 

มาถึงสถานีรถไฟ ช่วงเย็นวันที่ 9 เมษายน ซื้อตั๋วรถไฟน่าจะออกประมาณ 21.30 ก็ไปนอนรอแถวสถานีฯ ตื่นขึ้นมาปรากฏว่ากระเป๋าสตางค์ถูกฉีก ทั้งเงินบัตรประชาชน รวมทั้งตั๋วรถไฟหายไปหมด ตกใจมาก เดินไปหาตำรวจแถวนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ ตำรวจก็บอกว่า มีปัญหามาก็มีปัญญากลับบ้านได้ ตนเห็นตำรวจพูดแบบนั้นจึงเดินออกมา ตัดสินใจเดินกลับบ้าน เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก 

พอมาถึงสระบุรีก็เดินไปขอน้ำกินกับพี่ รปภ.คนหนึ่ง ตนก็เล่าให้เขาฟัง เขาสงสารจึงยกจักรยานให้ บอกว่าปั่นกลับบ้านไปเลย พร้อมให้เงินมาจำนวนหนึ่ง ตนก็ปั่นมาเรื่อยๆ จักรยานเกิดยางรั่ว เงินก็ไม่มี พระที่บิณฑบาต และชาวบ้านที่สงสารก็ให้เงินทีละ 10 20 100 เอาไว้ซื้อข้าวกิน ปกตินอนตามศาลาริมทางกลางวัน กลางคืนค่อยเดินและปั่นจักรยานเพราะอากาศไม่ร้อน

ตอนแรกว่าจะกลับเพชรบุรี ก็ไม่อยากกลับ เพราะภรรยาก็ไม่มีเงิน จึงตัดสินใจต้องกลับบ้านที่อุดรธานี ตอนเดินทั้งเหนื่อยทั้งท้อ คิดในใจหิวต้องแวะวัด นอนข้างศาลา กินน้ำที่เหลือตกอยู่ข้าง คิดเสมอในใจว่า ยังไงต้องตายบ้านเกิด แม้ขาเดินไม่ไหว แต่ใจต้องสู้ ดีใจที่ได้กลับมาถึงบ้านแล้ว เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลย ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ ชาตินี้จะไม่ลืมพระคุณเลย พี่สาวอุ๊ด - นายอุ๊ด

พี่สาวลุงอุ๊ด บอกว่า น้องชายจะกลับมาเยี่ยมบ้าน เราก็เฝ้ารอ ผ่านวันแล้ววันเล่าก็ไม่เห็น จนภรรยาเขาขึ้นมาวันที่ 17 เมษายน ไม่เห็นสามีก็ตกใจ พี่ๆ ก็ใจหาย ไปแจ้งความก็แล้ว หาหมอดูก็แล้ว จู่ๆ โผล่มาบอกว่าถูกล้วงกระเป๋า ไม่มีเงินกลับบ้าน ทุกคนที่เป็นญาติและชาวบ้านก็ดีใจ เหมือนน้องชายตายแล้วเกิดใหม่ ดีใจที่เห็นกลับมาบ้านครบ 32 ประการ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ