ข่าว

แก๊ง 'ตำรวจ' 'รีดทรัพย์' 'ชาวจีน' ทำเป็น'ขบวนการ'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พล.ต.ต.นพศิลป์ เผย แก๊งตำรวจอุ้มทรัพย์ชาวจีนทำกันเป็นขบวนการ รวม 11 คน สาวลาวเป็นนกต่อชี้เป้า อยู่ด้วยตั้งแต่เริ่ม

จากกรณีนักธุรกิจชาวจีน จำนวน 5  ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน  4 ราย บุกห้อง ก่อนบังคับพาตัวขึ้นรถรีดทรัพย์ เป็นเงินจำนวน 2.5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2565  ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้จำนวน 4 ราย ยังคงหลบหนีอยู่ 1 ราย และเตรียมของหมายจับเพิ่มอีก 6 ราย ทำให้สามารถสรุปได้ว่าแก๊งอุ้มรีดนักธุรกิจชาวจีน มีผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 11 ราย   

ภายหลังการประชุมร่วมระหว่างตำรวจสืบนครบาล และตำรวจชุดสืบสวนสน.ดินแดง  พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.เปิดเผยถึงพฤติการณ์ ของกลุ่มแก๊งรีดทรัพย์ดังกล่าว ระบุว่า

พฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งสี่รายที่ถูกจับกุมตัวได้นั้น มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีนายอรรถวุฒิ  อดีตตำรวจ สน.คันนายาว ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีม โดยจะให้กลุ่มผู้ต้องหานำตัวผู้เสียหายไปพบเพื่อให้ยืนยันว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจจริง พร้อมกับข่มขู่เพื่อเรียกเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัว ทั้งนี้พบว่าในวันเกิดเหตุ นายอรรถวุฒิ ได้ขับรถเบนซ์สีดำมาจอดที่หน้าโรงแรมด้วยเพียงแต่ไม่ได้ลงจากรถเท่านั้น 

 

ส่วนและนายนภสินธุ์ ทำหน้าที่เข้าไปเปิดห้องพักในโรงแรมเดียวกับกลุ่มผู้เสียหาย เพื่อให้เข้าถึงตัวผู้เสียหาย ส่วน นายธีรชัย ได้รับการติดต่อให้มาเป็นล่ามแปลภาษาเพื่อติดต่อกับผู้เสียหาย โดยได้รับค่าจ้างจำนวน 15,000 บาท และ ส.ต.อ.ภูวเดช ได้รับการติดต่อมาเพื่อขอยืมรถ โดยอ้างว่าจะมาจับผู้ต้องหาก่อนจะถูกชวนมาร่วมทีมและนั่งรถไปด้วย

ทั้งนี้ตำรวจ สืบทราบว่า หญิงสาวชาวลาว  ซึ่งเป็นคนนำเครื่องรูดบัตรมาให้กับกลุ่มผู้เสียหาย เป็นนกต่อ ซึ่งนั่งรถมากับกลุ่มผู้ต้องหาตั้งแต่แรก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานในการขออนุมัติศาลออกหมายจับ 

 

ในส่วนเส้นทางการเงินจำนวน 2.5 ล้านบาท ที่ผู้เสียหายได้โอนเข้ามาให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวนพบว่าเส้นเงินถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกประมาณ 1.4 ล้านบาท ได้ถูกแบ่งให้นายอรรถวุฒิ  7 แสนบาท และจ.ส.ต.วีรยุทธ  ผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนี อีก 7 แสนบาท โดย จ.ส.ต.วีรยุทธ ได้มีการโอนไปให้กับ ส.ต.อ.ภูวเดช จำนวน 1 แสนบาท  ส่วนก้อนที่สองประมาณ 8.9 แสนบาท แต่บัญชีนี้ได้ถูกชอายัดโดยตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ เนื่องจากบัญชีนี้เกี่ยวข้องกับการหลอกซื้อขายของออนไลน์ จึงทำให้บัญชีนี้ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ 

 

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางตำรวจได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และสถานทูต เพื่อขอทราบรายละเอียดการเดินทางเข้ามาประเทศไทย และประวัติของกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด ว่ามีวัตถุประสงค์อะไรถึงเข้ามาในประเทศไทย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ