ปิด 'คดีบุกรุก บ้านอากู๋เหมทัศน์' ศาลสั่ง 'จำคุก' 4 จำเลย
ปิดคดี 'บุกรุก - ครอบครองปรปักษ์' บ้านอากู๋เหมทัศน์ 'ศาลอาญามีนบุรี' สั่ง 'จำคุก' 4จำเลย 9 เดือน ปรับ 1.1 หมื่นบาท หลังจำเลยชดใช้เงิน1ล้านบาทแล้ว ให้รอลงอาญา 2ปี
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2567 ที่ ศาลอาญามีนบุรี อ่านคำพิพากษา ใน ทีคดี อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ศรีพรรณ , นางนิตยา , นายพลกฤษณ์ และ น.ส.มาลี จำเลย ฐาน บุกรุก , ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์
กรณีจำเลยทั้งหมด บุกรุก บ้านอากู๋เหมทัศน์ และอ้างกรรมสิทธิ์ ครอบครองปรปักษ์ เป็นของตนเอง ก่อนจะย้ายออกไปเมื่อปลายปี 2566 และลักลอบกลับเข้ามาอ้างสิทธิ์การ ครอบครองปรปักษ์ อีกครั้ง จึงได้มีการเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.โคกคราม เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยรามอินทรา 58 กทม.
โดยจำเลยได้รับการประกันตัว ด้วยวงเงินคนละ 50,000 บาท
ช่วงเช้าวันนี้อัยการโจทก์และทนายความโจทก์ร่วม จำเลยทั้ง 4 คน พร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ระหว่างปี 2560-2566 จำเลยทั้ง4 ได้ บุกรุก เข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีใครอยู่ เพื่อจะเข้าไปต่อเติมสิ่งปลูกสร้างและอยู่อาศัย แต่โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ามีการ บุกรุก ในตอนกลางวันหรือกลางคืน จึงต้องฟังให้เป็นคุณแก่จำเลยว่าเป็นการ บุกรุก ในเวลากลางวัน เเละไม่ได้เป็นการกระทำความผิดโดย บุกรุก อย่างต่อเนื่อง
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐาน บุกรุก จำคุก 6 เดือนปรับ 2 พันบาท ฐานลักทรัพย์ จำคุก คนละ1ปี ปรับคนละ 2 หมื่นบาท
จำเลยทั้ง 4 ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ฐาน บุกรุก คง จำคุก 3 เดือน ปรับ1พันบาท ลดโทษกึงหนึ่งฐานลักทรัพย์ คง จำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท
รวมโทษ จำคุก จำเลยทั้ง 4 คงจำคุก 9 เดือน ปรับ 1.1 หมื่นบาท
พิเคราะห์เเล้วเห็นว่าจำเลยทั้ง4 อายุมากเเล้ว เเละ จำเลยยังร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 1 ล้านบาท จนเป็นที่พอใจของผู้เสียหายเเล้ว จึงเห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษ จำคุก จึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
ในส่วนความผิด ฐานทำให้เสียทรัพย์ เป็นคดียอมความกันได้ ทางโจทก์ร่วมขอถอนฟ้องไม่ติดใจเอาความ
น.ส.อำนวยพร ทนายความผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังจากนี้ คดีจะจบลงที่ศาลชั้นต้น เนื่องจากทางผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ ซึ่งตอนนี้จำเลยก็ชดใช้ค่าเสียหาย ในส่วนคดี ครอบครองปรปักษ์ ที่ฝ่ายจำเลยยื่นคำร้องก็มีการถอนคำร้องไปก่อนหน้านี้
นายซัน หลานอากู๋เหมทัศน์ เดินทางมาพร้อม น.ส.สโรชา ภรรยา โดย น.ส.สโรชา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนของคนกระทำเเบบนี้ สิ่งที่มันผิดกฎหมาย ที่เราควรรู้ว่า การไปยุ่งของๆคนอื่น ก็ควรมีบทลงโทษ ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไปในสังคม