ผู้เสียหาย 'หุ้นกู้STARK' เข้าพบ 'อัยการ' ตามคดี 'ขอคืนทรัพย์สิน'

วันที่9พ.ค.2567 เวลา 10.00 น. ที่ชั้น 10 สำนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด กลุ่มตัวเเทนผู้เสียหายคดีทุจริตใน บริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ คดีหุ้นกู้STARK ประมาณ10 คนเดินทางมายื่นหนังสือ ถึง นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์คืนเเก่ผู้เสียหาย

 

หลังจากล่าสุด ปปง.อายัดเพิ่มมาได้อีกเกือบ 3,000 ล้านบาท เเละในส่วนคดีอาญา ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องยื่นฟ้องนาย วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ อดีตผู้บริหารธุรกิจสีรายใหญ่ กับพวกไปเเล้ว

โดยผู้เสียหาย อยากให้นำผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นที่ดีเอสไอเสนอมา หรือตามดุลพินิจของ อัยการ เอง เพราะเป็นคดีที่มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก และผู้กระทำผิดบางส่วนยังไม่ถูกดำเนินคดี

 

พร้อมกันนี้ผู้เสียหาย ขอให้ อัยการ ยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทุกคน เพราะเป็นคดีที่มูลค่าความเสียหายสูง และหากผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกไป เกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

นายวิรุฬห์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวว่า เรื่องการขอให้ศาลริบทรัพย์ เดิมทีอัยการสำนักงานคดีพิเศษยื่นไปเเล้ว 1 สำนวน เป็นเงิน 355 ล้านบาท เเละเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2567 นี้ได้ยื่นเพิ่มอีก1สำนวน เป็นเงินเกือบ 3,000 ล้านบาท  โดยเรายื่นขอให้ศาลรวมเข้าสำนวนที่ 2เป็นคดีเดียวกัน เพื่อจะได้พิจารณาไปในคราวเดียวกัน เเละรวดเร็วขึ้น เพื่อประโยชน์เรื่องคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหาย

 

โดยวันที่ 13 พ.ค.2567 ศาลนัดสืบพยาน เเม้เรายังไม่ได้รับเเจ้งเรื่องคุ้มครองสิทธิ์จาก ปปง. ซึ่งคาดว่าจะมีการเลื่อนนัดออกไป เนื่องจากมีผู้คัดค้าน เเต่จะเป็นผลดีในการคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหายในเรื่องการยื่นรวมสำนวนคดีเพื่อคืนเงินให้กับผู้เสียหายตามอัตราส่วน

 

ส่วนเรื่องที่มีการคัดค้านการริบทรัพย์ ทางฝั่งจำเลยก็จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าทรัพย์สินดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์จากการกระทำผิด คดีนี้มีมูลค่าความเสียหาย 1.4 หมื่นล้าน เเต่ตอนนี้ทาง ปปง.อายัดได้ 3,000 กว่าล้านบาท เมื่อเรายื่นขอริบทรัพย์คืนเเก่ผู้เสียหาย ก็จะได้เเบ่งเฉลี่ยตามจำนวนความเสียหาย

 

ส่วนคดีอาญาทางอัยการคดีพิเศษ ยื่นฟ้องไปเกือบทุกคน มีเพียง 1 คนที่สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากทางอัยการเห็นด้วยยืนตามจากพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ

 

และนอกจากจำเลยที่เรายื่นฟ้องไปเเล้ว เราเเจ้งให้ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ไปดำเนินคดีผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นอีก 4-6 ราย เป็นกลุ่มกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท ถ้าทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอเห็นว่ามีใครเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเพิ่มขึ้นอีก ก็จะเเจ้งข้อกล่าวหาได้เพิ่มขึ้นอีก เเละเมื่อมาถึงอัยการคดีพิเศษ เราก็จะพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องผู้ต้องหาหรือไม่ต่อไป ตอนนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างสอบสวนยังไม่ได้มีการเเจ้งข้อหาเพิ่ม เเต่หากมีการเพิ่มผู้ต้องหาเเล้วจะไปเกี่ยวกับการสืบทรัพย์สินเพิ่มเติมได้หรือไม่นั้น ต้องไปดูอีกทีเพราะอาจจะเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ได้

 

อย่างไรก็ดี เรื่องยื่นขอริบทรัพย์สินให้ตกเป็นของเเผ่นดินเเละคืนผู้เสียหาย อัยการ เร่งรัดอยู่เเล้ว วันที่ 13 พ.ค.2567 เราขอศาลให้ไต่สวน รวมเป็นคดีเดียวกัน เพื่อคุ้มครองสิทธิ์คืนให้ผู้เสียหายโดยเร็ว