สลด "สาวไทย" เสียชีวิต บนภูเขาที่ ไต้หวัน หวั่นถูกนายจ้างลวงไปฆ่า
สลด "สาวไทย" เสียชีวิต บนภูเขาพื้นที่เมืองจีหลง ประเทศไต้หวัน แม่ร่ำไห้ไม่เชื่อลูกฆ่าตัวตาย หวั่นถูกนายจ้างลวงไปฆ่า
จากกรณีสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป ได้รับรายงานจากตำรวจไต้หวันกรณี "สาวไทย" น.ส.สุดธิดา อายุ 32 ปี ชาว ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี เสียชีวิตจากการถูกทำร้าย บนภูเขาในพื้นที่เมืองจีหลง ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่บ้าน จ.อุดรธานี
พบญาติและเพื่อนบ้านนั่งจับกลุ่มพูดเรื่องการเสียชีวิตของ น.ส.สุดธิดา โดย นางดวงพร ผู้เป็นป้า เล่าว่า เป็นคนเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เด็ก เพราะแม่ผู้ตายจะไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯ ผู้ตายแยกทางกับสามี มีลูก 2 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ อายุ 14 ปี และ 4 ปี เมื่อเดือนเมษายน 2566 ผู้ตายเดินทางไปทำงานร้านนวดแผนโบราณที่ ไต้หวัน เพราะต้องการหาเงินเลี้ยงลูก และอยากทำบ้านให้ลูก โดยขอวีซ่าไป 3 เดือน พอวีซ่าหมดจะกลับบ้าน แต่ไม่อยากกลับเพราะได้เงินดี จึงทำงานต่อ ผู้ตายส่งเงินกลับมาเลี้ยงลูกเดือนละ 4,000 - 7,000 บาท ผู้ตายจะโทรมาหาลูกประจำ เพราะห่วงลูก
โดยทราบว่าผู้ตายได้ย้ายงานใหม่ ไปสมัครทำงานแม่บ้าน ได้ 3 วัน ผู้ตายโทรกลับมาเล่าให้ฟังว่า นายจ้างใช้งานหนัก ไม่ยอมให้พักผ่อน นางจ้างเป็นชาวไต้หวันแต่มีภรรยาเป็นชาวไทย จ.ลำปาง ทำงานหนักมาก แต่จะอดทนถ้าได้เงินเก็บซักก้อนมาทำบ้านใหม่ โดยจะสะสมทองไว้ 4-5 บาท คืนเกิดเหตุ ผู้ตายโทรมาเล่าว่า นายจ้างผู้หญิงใช้ซักกางเกงใน ด้วยความโมโหประกอบกับไม่ยอมให้กินข้าว ผู้ตายเลยเตะถังน้ำใส่นายจ้าง
ช่วง 19.00 น. คืนเดียวกันผู้ตายเล่าว่านายจ้างชวนขึ้นไปเก็บผักบนภูเขา และเดินทางไป 20.00 น. พอตื่นเช้าแฟนหนุ่มชาวนครพนม ที่พบรักกันอยู่ ไต้หวัน โทรมาบอกว่าลูกสาวถูกฆ่าตายบนภูเขา และติดต่อกับผู้ตายตลอดทำให้รู้พิกัดและเป็นผู้แจ้งตำรวจ "มีลางสังหรณ์ หนังตาข้างขวากระตุก 2-3 วัน เสียใจที่สุด พอทราบข่าวก็แค้น เพราะเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เล็ก และยังเลี้ยงหลานอีก ลูกคนโตผู้ตายพอรู้เรื่องก็นั่งร้องไห้ สงสารหลานมากซึ่งตนสงสัยนายจ้างจะเป็นคนฆ่า อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้"
ส่วน นางผ่องอำไพ แม่ผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูก 2 คน น.ส.สุดธิดา เป็นลูกคนสุดท้อง ตนไปทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพฯประจำ โดยมีพี่สาวเลี้ยงผู้ตาย แต่เมื่อ 3 วันก่อนได้กลับมาบ้าน เพื่อหางานทำที่บ้าน และดูแลหลาน ก่อนลูกจะเสียชีวิตก็ได้โทรคุยกับลูกตอนกลางคืน พอตื่นเช้ากำลังจะไปทำงาน เพื่อนลูกโทรมาบอกว่าลูกฆ่าตัวตาย ตนก็เถียงไปว่าจะฆ่าตัวตายทำไม เพราะผู้ตายห่วงลูกมาก ตนรู้สึกเสียใจมากใจสลาย สงสารลูกสาว ก่อนลูกจะเสียชีวิต ตนมีลางสังหรณ์สุนัขหอนทั้งคืน ตนก็คิดว่าหาเห็นวิญญาณเพื่อนบ้านที่ตายมากกว่าไม่คิดว่าจะเป็นวิญญาณลูก อยากได้ศพลูกกลับบ้าน อยากให้ทางการจับคนร้ายให้ได้
โดย : ยุทธพงษ์ ดลสิริฤทธิกุล