เปิดปากพี่เลี้ยง เด็กชาย 3 ขวบ กระเพาะแตก ยัน กินจุ ไม่ทำร้าย รอยฟกช้ำเพราะซน | คมชัดลึก

ความคืบหน้าคดีที่ น้องพอร์ช อายุ 3 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยไม่ทราบสาเหตุระหว่างอยู่ในความดูแบของพี่เลี้ยง เหตุเกิดคืนวันที่ 16 ต่อเนื่อง วันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุ ยาย นางสาวแสงทอง อายุ 59 ปี) และ ป้า นางสาวปนัดดา อายุ 37 ปี ของน้องพอร์ช ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.บางเขน ไว้แล้วนั้น เบื้องต้นพบว่า น้องพอร์ชมีอาการกระเพาะแตก และมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย บาดเจ็บสาหัส โดยเชื่อว่าพี่เลี้ยงอาจเป็นคนทำร้ายร่างกาย 

 

แม่ของน้องพอร์ช นางสาวกาญจนาพร เปิดเผยว่า อาการของน้องดีขึ้น แต่ยังมีไข้สูง ซึ่งตอนที่มาถึงโรงพยาบาล หมอแจ้งว่าตามตัวน้องมีรอยฟกช้ำตามตัวเป็นจ้ำๆ , ตาค้าง , เกือบช็อค ถ้ามาช้ากว่านี้อาจถึงแก่ชีวิตได้ , กระเพาะแตก ซึ่งหมอยังได้บอกอีกว่า ถ้ากินเยอะจนกระเพาะแตกไม่เคยเจอ ส่วนมากถ้ากินจนล้นกระเพาะจะเป็นการอาเจียนออกมาแทน

 

ทั้งนี้ผลการตรวจร่างกายต้องรอทางนักสังคมสงเคราะห์มาร่วมในการตรวจร่างกาย ถึงจะทราบถึงสาเหตุอีกที ตอนนี้น้องอยู่ในห้อง ICU โรงพยาบาลอ่างทอง 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ยาย-ป้า แจ้งความหลาน 3 ขวบ กระเพาะแตก ช้ำทั้งตัว คนเลี้ยงเด็ก อ้างตกชักโครก

แม่ของน้องพอร์ช ยังเล่าว่า ได้จ้างพี่เลี้ยง เลี้ยงลูกตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และสังเกตเห็นว่าน้องพอร์ชเริ่มมีรอยฟกช้ำก่อนช่วงสงกรานต์ โดยพี่เลี้ยงอ้างว่าลูกดื้อ เดินชนโต๊ะ ชนประตู จนเป็นรอยช้ำ ซึ่งตนก็รู้ว่าลูกค่นข้างดื้อ จึงไม่ได้เอะใจอะไร แต่หลังจากนั้นก็ขอรับลูกมานอนด้วย ขอพาไปเที่ยว แต่ทางพี่เลี้ยงไม่ให้ โดยอ้างว่ากำลังดัดนิสัยลูกอยู่จึงไม่อยากให้ออกไปไหน จนวันเกิดเหตุพี่เลี้ยงอ้างว่าลูกกินเยอะจนกระเพาะแตก ตนจึงรีบไปที่โรงพยาบาลทันที

 

ตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวานนี้จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับการติดต่อจากฝั่งพี่เลี้ยงเลย มีแต่ป้าของพี่เลี้ยงโทรมาหา และบอกว่า "มึงทำแบบนี้กับกูไม่เป็นไร (เรื่องแจ้งความ) มึงก็รู้ว่าลูกมึงดื้อ ลูกมึงซน" ตนเลยตอบกลับไปว่า ตนไม่ได้จะกล่าวหาอะไร รอผลตรวจออกมาค่อยว่ากัน ซึ่งตนรู้จักกันพี่เลี้ยงคนนี้มากว่า 10 ปี เคยกินอยู่ด้วยกัน และคอยช่วยเหลือกันตลอด จนเกิดความไว้ใจ และไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับตนเองและลูก 

 

โดยเมื่อวานทางตำรวจได้สอบปากคำทางโทรศัพท์ไปแล้ว และในวันจันทร์จะเอาใบตรวจร่างกายไปให้กับทางเข้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้มีการแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย 

 

มีรายงานว่า เหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้นช่วงเวลา 23:00-02:00 น. เนื่องจากมีภาพพี่เลี้ยงกลับมาจากขายของตอน 23:00 น. จากนั้นได้มีภาพตอนพี่เลี้ยงพาน้องพอร์ชไปส่ง รพ. ตอน 02:00 น. ทั้งนี้เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในบ้าน ต้องตรวจดูในบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน สน.บางเขน ได้นัดพี่เลี้ยงและสามีมาสอบปากคำถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาสอบปากคำเกือบเกือบ 2 ชั่วโมง

หลังสอบปากคำแล้วเสร็จ พี่เลี้ยงได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า โดยปกติน้องพอร์ชเป็นเด็กที่กินเยอะ กินจุ โดยก่อนเกิดเหตุ น้อง นัองพอร์ชอยู่กับตนเองที่ตลาด ซึ่งระหว่างขายของก็ให้น้องพอร์ชกินโดนัท แล้วก็เริ่มมีอาการปวดท้องแต่คิดว่าอาการไม่หนักมาก

 

จากนั้นแฟนของตนก็ได้มารับน้องพอร์ชกลับห้องพักในเวลา 22.00 น. ส่วนตนเองยังขายของต่ออยู่ที่ตลาด เมื่อไปถึงบ้าน แฟนได้โทรศัพท์มาบอกว่าน้องพอร์ชยังมีอาการปวดท้อง ตนจึงแนะนำให้พาไปนอน หรือไม่ก็ให้อาเจียนที่ชักโครก โดยแนะนำให้ใช้สายชำระฉีดเข้าไปที่ทวารหนัก เพื่อให้ขับถ่ายออกมา แต่ก็ไม่เป็นผล ก่อนที่แฟนจะพาน้องพอร์ชไปส่งโรงพยาบาลในเวลา 02:00 น.

 

จากนั้นจึงโทรศัพท์หาแม่น้องพอร์ช เพราะแพทย์ต้องให้ผู้เป็นแม่เซ็นยินยอมการรักษา ตอนแรกแม่น้องพอร์ชบอกว่าจะมาตอนเช้า แต่ในที่สุดก็ยอมมาโรงพยาบาล เพื่อเซ็นเอกสารกับทางโรงพยาบาล ส่วนรอยฟกช้ำเกิดขึ้นมาจากการวิ่งเล่นซุกซนคามประสาเด็ก ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้

 

พี่เลี่ยงยังบอกว่า เคยเลี้ยงตั้งแต่ 3 เดือน จากนั้นแม่ก็เอาน้องไปเลี้ยงเอง ก่อนจะพาน้องพอร์ชมาให้เลี้ยงอีก อีกทั้งบอกว่า ที่ผ่านมาแม่ของน้องพอร์ชก็ไม่ได้มาเหลียวแลลูก นาน ๆ จะมาหาลูก ซึ่งหากน้องพอร์ชหายดีแล้ว ก็ให้แม่ไปเลี้ยงเอง ตนเองจะไม่รับเลี้ยงอีกแล้ว อีกทั้งยังยอมรับว่า เวลาน้องพอร์ชดื้อก็มีตีบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายน้องพอร์ช