ข่าว

เมีย CEO แฉยับ! บ้านสามีหวังฮุบสมบัติ ยึดบ้าน-คอนโด ต้องหอบลูกอยู่นอกบ้าน

เมีย CEO นวดแผนไทย โพสต์ปริศนา 8 ข้อ ยืนยันที่ผ่านมาดูแลพ่อ-แม่สามีมาตลอด ล่าสุดโดนยึดบ้าน-คอนโด ต้องหอบลูกอยู่นอกบ้าน

จากกรณีการเสียชีวิตของนายพิชิต หรือ ต้น เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย เมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาน้องสาวผู้เสียชีวิต ตั้งข้อสังเกตุว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ 

 

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า นางมด  ภรรยาของนายต้น โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊กชวนสงสัยว่า เกิดจากเหตุการณ์จริงหรือไม่ ทางผู้สื่อข่าวจึงโทรสอบถามข้อเท็จจริง 

นางมด ระบุว่า โพสต์นั้นไม่ได้พาดพิงถึงใคร หรือเอ่ยชื่อใคร แค่เห็นข่าวและชื่นชมการพาดหัวข่าว เลยลองฝึกพาดหัวข่าวดูบ้าง ซึ่งรายละเอียดการโพสต์ 6 ข้อ อย่างเช่นข้อ 1 ที่โพสต์ "สะใภ้สุดงง สามีเสียชีวิตไม่ถึงเดือน ญาติสามีเร่งขอเงินวันเว้นวัน" นางมด เล่าว่า ขอพูดได้ในมุมของตนเอง เป็นเหตุการณ์ช่วงงานศพนายต้น ตนซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายให้บ้านของฝ่ายชาย จำนวน 40,000 บาท ตนจ่ายค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง ทั้งที่พัก รีสอร์ท ค่ากิน ค่าอยู่ แม้เค้าจะควักออกจากระเป๋าก่อน แต่สุดท้ายก็มาเบิกที่ตน รวมทั้งหมด 40,000 บาท 

 

นอกจากนี้ยังโอนให้หลวงพ่อ (พ่อนายต้น) และแม่ของนายต้น คนละ 10,000 บาทต่อเดือน บางเดือนหลองพ่ออยากทำบุญเทถนนเพิ่มเติม 10,000-15,000 บาท ตนก็ทำให้โดยที่ไม่หักจากเงินเดือน เพราะถือว่าตนได้ทำบุญ ซึ่งที่หลวงพ่อบอกว่าตนเป็นคนเสนอ ตนยืนยันไม่ได้เสนอ หลวงพ่อเป็นคนขออย่างเดียว

 

นางมด กล่าวว่า ตนถูกเรียกไปมุมบ้านและยืนรุมถามว่า ทางบ้านฝ่ายชายจะได้อะไรบ้าง ไม่ถามตนสักคำว่าพิธีศพนายต้นจะยังไงต่อ มีแต่ตนถามว่ากำหนดการจะเป็นอย่างไร จะได้แจ้งญาติที่กทม. เพื่อเตรียมตัวมาร่วมงานกัน 

นางมด ยังเล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้หลวงพ่อให้สร้างกุฏิ ที่วัดปลายนา จ.ปทุมธานี หรือไม่ ในราคา 250,000 บาท ตนก็โอนเงินให้ แต่ไม่มีเงินก้อน เนื่องจากมีเงินไม่เยอะและต้องดูแลธุรกิจ เป็นเงินหมุน จึงไม่รู้ว่าเพราะเหตุนี้หรือไม่ ทำให้ไม่พอใจ ซึ่งตนได้โอนเงิน 10,000  บาท เป็นเงินมัดจำจ้างช่าง แต่ตนยังไม่เห็นสัญญาที่ทำกับช่างเลย อยากช่วยดูสเปคงานเหมือนกัน กลัวหลวงพ่อถูกหลอก ส่วนตัวไม่รู้จักช่าง โอนเงินผ่านหลวงพ่ออย่างเดียว

 

ส่วนที่โพสต์ว่า "มิติใหม่ของคำว่าบ้าน เจ้าของไม่มีสิทธิ์อยู่ คนอยู่ไม่ใช่เจ้าของ" นางมด ยืนยัน เป็นบ้านตนและนายต้น ส่วนที่แม่ของนายต้นเข้ามาอยู่นั้น ก่อนหน้านี้แม่เคยมาบ้างบางครั้ง มาทำความสะอาด แต่พอนายต้นเสียชีวิต แม่ก็เข้ามาอยู่จริงจัง ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่มีกุญแจ บ้านไม่ได้ล็อค กุญแจพึ่งหายและไม่รู้หายไปไหน ซึ่งตนไม่สามารถเข้าไปได้ อีกฝ่ายหาว่าตนบุกรุกจะเข้าไปทำร้ายแม่นายต้น แต่ยืนยันไม่เคยทำร้าย ที่ผ่านมาดูแลดีมาตลอด แม้ช่วงแม่นายต้นเป็นมะเร็งลำไส้ ตนก็ไปหาเงินกู้ เพื่อมารักษา ทำเท่าที่คนคนนึงจะทำได้ ไม่อยากให้นายต้นคิดมาก  

 

เมียCEOโพสต์

ส่วนที่โพสต์ว่า "อนาจใจ แม่ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ นอนโรงพยาบาลแรมเดือน ไร้วี่แววลูกสาวสุดที่รัก" นางมด ระบุว่า น้องสาวนายต้น ไม่เคยมาดูแล เพราะไม่ถูกกับนายต้น มีเพียงรอบแรกที่มาดูแลคือเหตุการณ์ที่แม่นายต้นเคยกินยาล้างห้องน้ำ หวังฆ่าตัวตาย น้อยใจลูกสาวไม่สนใจ ซึ่งปกติแม่นายต้นมักดื่มเหล้า และตามประสา ทะเลาะกัน คงอยากให้ลูกสนใจจึงกินยา ซึ่งปกติแม่พักที่คอนโดของนายต้น ซึ่งขณะนี้น้องสาวนายต้นเข้าไปอยู่ ทำให้ตนและลูกๆต้องออกมาเช่าคอนโดและไม่ทราบว่ามาอยู่ที่คอนโดได้อย่างไร 

 

เมื่อถามว่า ตั้งข้อสังเกตุหรือไม่ ที่บอกว่า ตอนแม่ป่วยมะเร็งลำไส้ ลูกสาวไม่มาดูแล แต่พอตอนนี้กลับบอกว่าต้องการเงินมาดูแลแม่ นางมด กล่าวว่า จริงๆการดูแลแม่ก็เป็นหน้าที่ของน้องสาวนายต้น ไม่ใช่หน้าที่ลูกสะใภ้อย่างตน แต่พอวันนี้นายต้นเสียชีวิต กลัวว่าตนจะไปมีครอบครัวใหม่และไม่ได้ดูแลแม่ ซึ่งมองว่า ต่อไปต้องเป็นหน้าที่ของน้องสาว เมื่อลูกคนโตเสียชีวิต คนกลางต้องทำหน้าที่พี่คนโต ทำทุกอย่างเพื่อดูแลพ่อแม่ วันนั้นนายต้นมองลงมาจะได้ภูมิใจ 

 

ส่วนที่โพสต์ว่า "สุดเสื่อม ย่าเมาเหล้า ไร้เหตุผล ตบหน้าหลานสาวอายุ 15 หวังระบายอารมณ์ที่ลูกไม่โอนเงินให้ " นางมด เล่าว่า หากวันไหนที่มาอยู่บ้านแล้วเมา ก็จะตบลูกสาวคนโต ทำมาแล้วหลายครั้ง 

 

หลังจากนี้จะถึงขั้นแตกหักหรือไม่ ยังไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะตนอยู่ของตนเงียบๆมาตลอด มาดูแลซัพพอตบ้านฝ่ายชายมาตลอด อยู่ที่อีกฝ่าย ส่วนจะฟ้องขับไล่ออกจากบ้านหรือคอนโดหรือไม่ ยังไม่แน่ใจ ยังไม่นึกถึงขั้นนั้นหรือนึกถึงสมบัติอะไร เอาแค่ตอนนี้ลูกไม่เจอคำถามอะไรจากโรงเรียนก็โอเคแล้ว 

 

ส่วนที่โพสต์  "ผัวเมียแยกกันอยู่ ญาติฝ่ายผัวเลือกตัดช่องน้อยแต่พอตัว มาขอเงินเมีย 600,000 อ้างว่าจะสึก เพราะกลัวลูกหย่าเมียแล้วไม่เลี้ยงต่อ" นางมด กล่าวว่า เราแยกกันอยู่ แต่ทางบ้านฝ่ายชายคิดมากว่ากลัวเราจะเลิกกัน ที่ผ่านมาตนเป็นหลักในการทำงาน เป็นคนบริหารงาน ทำงานทุกอย่าง ส่วนสามีไม่ทำอะไร บางวันก็กินเหล้าแล้วเมา แต่ตนก็ไม่เคยว่า ขอแค่ความสงบในบ้าน ซึ่งทางบ้านเค้ารู้ดีว่าลูกชายเป็นคนอย่างไร 

 

ก่อนหน้าที่ช่วงที่มีปัญหากับนายต้น มีอยู่วันหนึ่งช่วงกลางเดือน มี.ค.67 หลวงพ่อมาหาที่ออฟฟิต ตนดีใจนึกว่าจะว่า คุยให้คืนดีกัน แต่หลวงพ่อกลับบอกว่า "ไหนๆหลวงพ่อก็พึ่งพาไอต้นไม่ได้แล้ว หลวงพ่อขอพูดตรงๆ ขอเงิน6แสน จะสึกมาขายลอตเตอรี่ " 

 

เมื่อถามถึงเหตุการณ์ นายต้นถูกรอบยิงในพื้นที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 67 ทราบเรื่องหรือไม่ นางมดขอตอบอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.67) จากนั้นได้ขอตัววางสายไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวยอดนิยม