ข่าว

มือ 'ยิงถล่ม' รถเทศบาลตำบลบางไทร เล่าใครชักปืนก่อน กลายเป็นหนังคนละม้วน

ฟังจากปากมือ 'ยิงถล่ม' รถเทศบาลตำบลบางไทร เล่าเหตุการณ์ ใครเป็นคนเริ่มชักปืนก่อน งานนี้กลายเป็นหนังคนละม้วน

นายเปา มือยิงถล่ม รถพนักงานเทศบาลบางไทร เข้ามอบตัว พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์

วันที่20พ.ค.2567 จากคดี คนร้าย ขี่รถจยย. ตามประกบ ยิงถล่ม รถเทศบาลตำบลไทรม้า จ. นนทบุรี ที่ นายศรายุธ อายุ 42 ปี พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลไทรม้า เป็นคนขับ เหตุเกิดท้องที่  สภ.บางศรีเมือง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2567

 

โดย นายศรายุธ เล่าว่า สาเหตุมาจากขับปาดหน้ากัน จนเกือบเฉี่ยวกัน ได้เปิดกระจกขอโทษไปแล้ว แต่นายเปาไม่ยอม จึงมีปากเสียงทะเลาะกัน โดยนายเปาทำท่าทางใช้มือล้วงกระเป๋า เหมือนจะหยิบอาวุธปืน ก่อนแยกย้ายกัน มีนายเปาขี่รถอยู่ข้างหน้า จากนั้นไม่นานนายเปาได้จอดรถจยย.ข้างทาง แล้วชักปืน เร่งเครื่องรถจยย.มา รัวยิง ใส่รถตน4-5นัด โชคดีที่กระสุนพลาดเป้า

 

ล่าสุด วันนี้ นายนิคม หรือนายเปา อายุ 33 ปี เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเดินทางมาพร้อมพ่อและทนายความ โดยนายเปา เล่าว่า  ที่ชักอาวุธปืนยิง เป็นการป้องกันตัว เพราะเห็นคู่กรณีขับรถตาม และหยิบปืนออกจากลิ้นชักหน้ารถ

 

นายนิคม กล่าวว่า เมื่อวานตั้งใจจะไปทำบุญที่วัด ไทรม้า และขี่รถจยย.ไปหน้าโรงพยาบาลเพื่อซื้อกับข้าวใส่บาตร ระหว่างทางมาเจอคู่กรณีขับรถปาดหน้ารถ และเปิดประตูลงมาเรียกตน เห็นว่าเคยเป็นอริเก่าที่เคยมีเรื่องกัน จึงขี่รถจยย.หนี

จากนั้น คู่กรณีได้ขับรถตาม ก่อนจะจอดรถขวางกลางถนน ตนกลัวมีเรื่อง จึงขี่รถจยย.หนี แต่คู่กรณียังขับรถตามมาเรื่อยๆ จนมาเจอกันหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แฟนบอกกับตนว่าดูท่าจะไม่ดีให้รีบกลับ คู่กรณีก็ยังขับรถตามมา จนถึงจุดเกิดเหตุ และขับรถเร่งเหมือนจะชนตน และบอกกับตนว่า "กูอยากรู้ว่าบ้านมึงอยู่ที่ไหน กูจะตามไปเล่นมึง"  และเปิดลิ้นชักหน้ารถกระบะหยิบปืนขึ้นมา

 

ระหว่างนั้นแฟนของตนได้โทรหาพ่อ ตนจึงผลักแฟนออกและยิงใส่คู่กรณี ซึ่งเขาได้ขับรถหลบหนีไป ตนตกใจจำไม่ได้ว่ายิงกี่นัด ยืนยันว่าเห็นคู่กรณีหยิบปืน จึงรีบผลักแฟนเพราะกลัวโดนแฟน ถ้าไม่ยิงก็อาจจะเป็นตนที่เจ็บตัว

 

ไม่คิดจะหาเรื่องคู่กรณี แต่เขาตามตนไม่หยุด ระยะทางหลายกิโลเมตร ถ้าไม่ยิงป้องกันตัว ตนคงเป็นคนที่ตายเอง  อีกนิดเดียวก็ถึงบ้านแล้ว อยากให้สังคมให้โอกาสบ้าง ทำงานเป็นลูกจ้างการไฟฟ้า ต้องถูกออกจากงานเพราะเรื่องนี้ ที่มีปืนหลายกระบอกเพราะชอบกีฬายิงปืน แต่ช่วงหลังไม่มีเวลา ทำแต่งานอย่างเดียว

 

ขณะที่ นายตู่ (นามสมมุติ) พ่อนายเปา กล่าวว่า ปกติลูกชายไม่ได้พกปืน แต่วันเกิดเหตุต้องพกปืน เนื่องจากตนให้เงิน นายเปาไป 300,000 บาท เพื่อที่จะให้ไปเข้าธนาคาร จึงจำเป็นต้องพกปืน เพื่อป้องกันตัว แต่ยังไม่ทันถึงธนาคาร เนื่องจากธนาคารยังไม่เปิดทำการ ลูกชายจึงแวะใส่บาตรที่วัดก่อน โดยปืนกระบอกดังกล่าวมีทะเบียนถูกต้อง