'บิ๊กต่าย' มีสิทธิ์ให้ 'บิ๊กโจ๊ก'ออกราชการไว้ก่อน'
รองแต้ม มือปราบหูดำ เผย 'บิ๊กต่าย' มีสิทธิ์ให้ 'บิ๊กโจ๊ก'ออกราชการไว้ก่อน' ไม่จำเป็นต้องฟังคณะกรรมการสอบสวน
จากกรณีเมื่อวันที่28 พ.ค.67 เปิดความเห็นกฤษฎีกา ตีความปมคำสั่ง สตช. ปลด “บิ๊กโจ๊ก” โดยมีตอนหนึ่ง ระบุว่า ในกรณีของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน มีขึ้นในวันเดียวกันกับ วันที่มีคำสั่ง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน และการสอบสวนย่อมเป็นการกระทบสิทธิหลายประการของผู้ถูกสอบสวน ดังนั้น หากพิจารณาการตอบข้อหารือของ กฤษฎีกา ในกรณีนี้ จึงต้องพิจารณาว่า การสั่ง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน ดังกล่าวปฏิบัติตามคำแนะนำของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นหรือไม่
ทีมข่าวคมชัดลึก ได้ต่อสายตรงหา พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ หรือรองแต้ม เจ้าของฉายามือปราบหูดำ เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว รองแต้ม ระบุว่า ความเห็นจากคณะกรรมการไม่เกี่ยวเลยรักษาการผบมีอำนาจตามกฏหมายพรบตำรวจมาตรา 105 การรักษาการก็ถือว่าเป็นผบ. ตร มีอำนาจหากตำรวจกระทำความผิดร้ายแรงสามารถจะให้ตำรวจรายนั้นออกราชการไว้ก่อนระหว่างการสอบสวนที่ผ่านมาเวลามีตำรวจถูกไล่ออกทำไมไม่เคยมีการพูดถึงตำรวจคนนั้นก็มีศักดิ์ศรีเท่าบิ๊กโจ๊ก กฎหมายไม่มียกเว้นว่าต้องเป็นรองผบ. ตรและจะได้สิทธิ์ตำรวจชั้นประทวนก็ต้องได้รับสิทธิ์เช่นเดียวกันเพียงแต่หากมียศรองผบ. ตรจะให้ออกจากราชการต้องมีการโปรดเกล้าจะ มาบอกว่าเป็นตำรวจผู้ใหญ่ไม่ใช่ต้องยึดหลักกฏหมายเช่นหากผมลักทรัพย์ไม่ว่าจะเพียง 500 บาทหรือหนึ่งล้านบาทก็มีความผิดเช่นเดียวกัน ให้คิดตามหลักกฏหมายคนที่ออกมาพูดเพื่อจะช่วยบิ๊กโจ๊กทั้งนั้น
รองแต้มให้ความเห็นว่าที่มีการ อ้างถึงมาตรา 120 เพียงเพื่อจะดึง ให้ข้องเกี่ยวกับดุลพินิจของคณะกพ.ตร. ให้หวั่นไหว
นอกจากนี้ในศาลปกครอง มีฎีกาว่าด้วยเรื่องข้อสังเกตมิใช่กฎหมายไม่จำเป็นต้องรับฟัง การที่สำนักนายกทำหนังสือขอให้ กฤษฎีกาตีความ2 เรื่อง รองแต้มตั้งคำถามว่ากฤษฎีกาแถมมาทำไมอีก1เรื่อง ก่อนหน้าเคยมีคดีของโครงพิชิตชื่นบานทำไมถึงไม่แถมให้เหตุใดถึงมาแถมให้แต่เรื่องของบิ๊กโจ๊ก ที่สำคัญที่สุดกฤษฎีกามีหน้าที่วินิจฉัยเรื่องข้อกฎหมายเรื่องระเบียบภายในกฤษฎีกาไม่มีสิทธิ์เข้าไปก้าวก่าย