ข่าว

คำพูดแรก 'เสี่ยแป้ง' คุยกับ 'รมว.ยุติธรรม' มีพาดพิงคนอื่น หวั่นความปลอดภัย

'รมว.ยุติธรรม' เล่าวินาทีวีดีโอคอล 'เสี่ยแป้ง' หลังถูกจับ ไม่หวั่นถูกตัดตอน แต่กลัวความปลอดภัยในอินโดฯ เชื่อมีคนหนุนหลังช่วยเหลือที่พักพิง

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงการเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียของ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" จะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่ ว่า การที่เสี่ยแป้งหนีไปอยู่อินโดนีเซียคนเดียวไม่สามารถทำได้ ถ้าไม่มีคนให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการทำบัตรประชาชน และการให้ที่พักพิง อย่างคอนโดหรู รวมถึงการเดินทางในเกาะบาหลี ซึ่งปกติถ้าไม่มีคนภายนอกให้การช่วยเหลือ ก็คงทำไม่ได้ ดังนั้นจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียตรวจสอบเสียก่อน

 

โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียยังไม่พบความผิดของเสี่ยแป้งที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งทางการอินโดนีเซียแจ้งกับทางการไทยว่า มีชุดเจ้าหน้าที่นำส่งตัวผู้ต้องหาระหว่างประเทศพร้อมเที่ยวบิน เพื่อคุมตัวเสี่ยแป้งมาส่งที่ประเทศไทยตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไป โดยคาดว่าอาจจะใช้เวลา 2-3 วัน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง

เมื่อถามว่าทราบข้อมูลหรือไม่ ว่าเสี่ยแป้งไปทำธุรกิจอะไรที่ประเทศอินโดนีเซีย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอรอให้มีการสอบสวนก่อน เพราะในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ติดตามตัว ได้ติดตามเครือข่ายที่มีหมายจับจากคดียาเสพติด ส่วนรายละเอียดตอนนี้ยังไม่ทราบ 

 

พ.ต.อ.ทวี ยังเล่าถึงการพูดคุยกับ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือเสี่ยแป้ง นาโหนด หลังถูกตำรวจอินโดนีเซียจับกุมว่า ทันทีที่เสี่ยแป้งเห็นหน้าตน ได้พูดว่า "ผมยอมแล้วครับนาย" และได้พูดคุย 2-3 ประโยค ที่มีการภาพพิงถึงคนอื่น แต่ตนไม่ขอเปิดเผย ซึ่งเนื้อหาที่มีการพูดนั้น ไม่ได้มีการแสดงความกังวลถึงความปลอดภัยของตนเองที่จะต้องถูกตัดตอน ในการพูดคุยกัน เสี่ยแป้งมีสีหน้ายิ้มแย้ม และรู้สึกว่ามีหมดหนทางในการหนีแล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามจึงถามย้ำว่า การที่บอกว่าเสี่ยแป้งกล่าวอ้างอิงถึงบุคคลอื่นนั้น ใช่เจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า เขาเพียงแสดงถึงความกังวลในระหว่างการคุมขังที่อินโดนีเซียเท่านั้น

 

ส่วนที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวเสี่ยแป้งในครั้งนี้ได้นั้น เป็นสัจธรรม เพราะถ้าประมาทก็ทำให้เกิดความพลั้งพลาดได้ ซึ่งตัวเขาเองก็มีความคิดว่าตัวเองฉลาด โดยจากข้อมูลที่ได้ถามจากอินโดนีเซียพบว่า เสี่ยแป้งมีการสลับห้องนอนทุกวัน ซึ่งชุดทำงานสืบทราบจากชื่อผู้จองห้องมีคนเดียว แต่จองหลายห้อง เป็นชื่อของผู้ต้องสงสัยที่อยู่ในเครือข่าย ไม่ใช่ชื่อเสี่ยแป้ง