ข่าว

'ทวี' จัดชุดCIB-ราชทัณฑ์ คุมเข้ม 'เสี่ยแป้ง' ส่งเข้าคุก

'รมว.ยุติธรรม' แจ้งรับตัว 'เสี่ยแป้ง' เร็วสุดวันอาทิตย์ เตรียมตร.สอบสวนกลางและราชทัณฑ์ ฝีมือดีผ่านการฝึกฝนคอยรับตัวคุมเข้มส่งเรือนจำ ยืนยันไม่ซ้ำรอย

ความคืบหน้าการคุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" กลับมารับโทษที่ประเทศไทย 

 

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรามีตำรวจสากลที่รับหน้าที่ในส่วนของผู้ต้องหา ซึ่งทาง ผบ.ตร. อินโดนีเซีย ระบุ ทางการไทยสามารถรับตัวเสี่ยแป้งกลับประเทศไทยได้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย. เป็นต้นไป เนื่องมาจากทางการอินโดนีเซียต้องมีการนำตัวจากเกาะบาหลีมาที่เมืองจาการ์ตา เบื้องต้นกระทรวงยุติธรรม มีแผนนัดหมายกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของอินโดนีเซียที่เมืองจาการ์ตา อาจถือโอกาสระหว่างนี้ ถ้าเขาส่งตัวผู้ต้องหาให้เราได้ ก็จะได้กลับมาพร้อมกัน 

สำหรับการรับตัวเสี่ยแป้ง กระทรวงยุติธรรม ตนจะเดินทางไปเองและคณะผู้บริหาร อาทิ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และในฐานะอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อประสานงาน ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน รอง ผบ.ตร. เป็นผู้ไปรับตัว 

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง

สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยในระหว่างการควบคุมตัวอย่างไรได้บ้าง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรามีมาตราการในเรือนจำที่ได้มาตรฐานตามหลักสากลอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าหากเป็นไปได้เราจะไม่นำตัวเสี่ยแป้งไปคุมขังที่เรือนจำเดิม  กรมราชทัณฑ์คงจะต้องดูว่าจะใช้เรือนจำใดเป็นที่คุมขัง ขอให้เป็นดุลพินิจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนีหรือก่อเหตุร้าย

 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะไม่มีการให้เสี่ยแป้งหลบหนีเป็นครั้งที่ 2 หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อดีตเป็นบทเรียน เราจะไม่ให้เกิดเหตุเป็นซ้ำสองอย่างแน่นอน ส่วนมาตรการควบคุมตัวเสี่ยแป้งนั้น ทางตำรวจอินโดนีเซียจะคุมตัวมาส่งให้ตำรวจไทย ซึ่งจะมีตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ที่ผ่านการฝึกควบคุมตัวผู้ต้องขัง เพื่อมาควบคุมตัวในระหว่างพาไปสอบสวน เพื่อป้องกันการหลบหนี โดยพนักงานสอบสวนเบื้องต้นอาจจะเป็นของตำรวจท้องที่ จ.พัทลุง และ จ.นครศรีธรรมราช เว้นแต่เป็นเรื่องสำคัญ ตำรวจอาจโอนสำนวนมาส่วนกลาง หรือถ้าเห็นเป็นเรื่องสำคัญก็อาจใช้อำนาจพิจารณาในกรณีอาจรับเป็นคดีพิเศษ ตามเงื่อนไขของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ส่วนถ้าเราได้ตัวเสี่ยแป้งกลับมา การออกหมายแดงถือเป็นหมายที่เกิดขึ้นใน จ.พัทลุง พื้นที่ สภ.หนองบอน ช่วงที่เจ้าตัวหลบหนีได้มีความผิดฐานขัดขวางต่อสู้กับเจ้าพนักงาน และครอบครองอาวุธปืน ทำให้มีหมายจับนี้เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มักเป็นคดีที่เกิดขึ้นใน จ.พัทลุง ส่วนคดีที่ศาลตัดสินไว้ ไม่ว่าจะเป็นคดีปล้น คดีพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งอันนี้ศาลมีคำตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต สำหรับคดีใหม่ที่จะเกิดขึ้น คือ คดีที่มีการหลบหนีออกจากสถานที่คุมขัง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ระหว่างการนอนพักรักษาตัวนอกเรือนจำ รวมไปถึงคดีระหว่างหนีอีกด้วย ต้องไปตรวจสอบทั้งหมด  

 

ก่อนหน้านี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 2 ส่วน โดยส่วนแรกคือการติดตามการหลบหนี ขณะที่ส่วนที่ 2 เสี่ยแป้งร้องขอความเป็นธรรมและความปลอดภัย ซึ่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสิ่งที่เสี่ยแป้งพูดผ่านคลิปวีดีโอ ที่เชื่อมโยงไปถึงพยานคนอื่นมายืนยัน โดยเราจะให้ความยุติธรรม เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ

 

ส่วนการยัดตัวดำเนินคดีเสี่ยแป้งในอินโดนีเซียเรื่องปลอมแปลงเอกสารและทำร้ายร่างกายผู้หญิง พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ตำรวจอินโดนีเซียจะไม่มีการดำเนินคดี เพราะเป็นบัตรประชาชนของอาเจะห์ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธ์ุ และคดีทำร้ายร่างกายนั้น ไม่มีการแจ้งความของผู้เสียหาย เบื้องต้นทราบว่าเป็นผู้หญิงที่เสี่ยแป้งใช้ควงในระหว่างการเดินทางข้ามเมือง 

 

ส่วนไทม์ไลน์การหลบหนี พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอให้นำตัวเสี่ยแป้งกลับมาสอบสวนก่อน เพื่อนำมาประกอบกับข้อมูลที่มี เพราะก่อนหน้านี้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และบุคคลภายนอกแล้วหลายคน ซึ่งเชื่อว่า จะได้เห็นถึงวิธีการหลบหนี และบุคคลที่เกี่ยวข้อง

 

ส่วนการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาโดยเฉพาะในคดีเสี่ยแป้ง เดิมทีมีรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เป็นประธานที่ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และทุกคนที่เกี่ยวข้องที่นำมาสู่การจับกุมเสี่ยแป้งในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการใช้ความรู้วิชาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมทำงานร่วมด้วยกันมาตลอด