'โฟโต้'ฮู้ดดำ'รับสารภาพฆาตกรรมปมขัดแย้งธุรกิจ | คมชัดลึก

จากกรณีพบศพชายวัย54 ปี ถูกแทงเสียชีวิตและนำศพหมกไว้ภายในคอนโดย่านนนทบุรี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบภาค 1 สามารถจับกุตัวคนร้ายได้ที่ จ.ชุมพร ทราบชื่อภายหลังคือ นายโฟโต้ อายุ 28 ปี

 

ล่าสุด วันที่ 1 มิ.ย.67 เวลา 12.30 น. ณ ห้องประชุมผิวพรรณ สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 แถลงข่าวในกรณีดังกล่าว แถลงข่าวหลังจับกุมตัวนายภูริณัฐ หรือนายโฟโต้ อายุ 28 ปี โดยมีนายพรชัย พ่อของผู้ก่อเหตุ  ได้ร่วมรับฟังด้วย

 

นายโฟโต้ เป็นผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 21 พ.ค.2567 ใน 3 ข้อหา

1.ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

2.ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ

3.พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร  

โดยสามารถตรวจยึดของกลางได้ คือ

1.ทองคำแท่งจำนวน 28 บาท

2.โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

3.สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม

4.บัตรประชาชน 4 ใบ

5.ซิมโทรศัพท์มือถือ 1 อัน

6.บัตรเครดิตจำนวน 3 ใบ

โดยตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ที่จ.ชุมพร หลังหลบหนีกบดานที่บ้านญาติ

พล.ต.ท.จิรสันต์  กล่าวว่า ในคดีนี้ต้องใช้เวลาสมควรเนื่องจากเพิ่งทราบเมื่อวันที่ 26 พ.ค.67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เวลาในทั้งหมด 5 วันเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหา โดยทางผู้ต้องหาหลบหนีไปที่จังหวัดชุมพร  เนื่องจากเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.67 แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งในวันที่ 26 พ.ค.67 และสภาพของผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพที่ตรวจสอบยาก หลังการตรวจสอบ พบบาดแผลทั้งหมด 15 จุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวของผู้ต้องหาดังกล่าวยากพอสมควร เพราะผู้ต้องหาเปลี่ยนชุด เปลี่ยนวิธีการเดินทาง เปลี่ยนลักษณะท่าทางในการเดินต่างๆ ทำให้ใช้เวลาในการจับกุม หลังที่จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจอของกลางด้วย โดยผู้ต้องหารับสารภาพ และตำรวจมีอยู่เพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา

 

 

พล.ต.ท.จิรสันต์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเรื่องของด้านทรัพย์สินที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังหาหลักฐานเพิ่มเติม ทางเราได้เก็บรายละเอียดทุกประเด็น เพื่อดำเนินการต่อ สาเหตุจูงใจ เป็นเรื่องเกี่ยวกับทางธุรกิจที่ทำร่วมกันกับผู้ตาย จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีการร่วมทุนกันจริงหรือไม่ และจะต้องสืบสวนหาพยานเพิ่ม

ประเด็นที่วันเกิดเหตุเป็นการนัดคุยเจรจรากันเพื่อเคลียร์ปัญญหาเรื่องเงินไม่ลงตัว ทางเจ้าที่ตำรวจจะตรวจสอบให้ละเอียดในเรื่องนี้  จะต้องหาให้หลักฐานเพิ่มด้วยว่าในวันเกิดเหตุเป็นการต่อสู้กันหรือไม่ เพราะตรวจสอบพบบาดแผลรอยช้ำบริเวณแขนของผู้ต้องหา ตามที่คำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาว่าเกิดการทะเลาะกันก่อนจะต้องรอตรวจสอบ และในเรื่องของการหลบหนี ผู้ต้องหาหนีเพื่อเป็นการประวิงเวลาให้ได้ยาวนานที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวมพยานหลักฐานทุกอย่างไม่ว่าจะในเครื่องโทรศัพท์ หรือดูจากพยานจะต้องตรวจสอบให้ครบ  

 

ทั้งนี้ยังต้องใช้เวลาในการสอบสวนต่อไปเพื่อความแน่นอน เพราะภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดที่เหมือนมีการเตรียมการไว้ตอนนี้อยู่ในสำนวน จะต้องทำการสอบสวนต่อไป  ส่วนการทำแผนชี้จุดเกิดเหตุอยู่ที่ความสมัครใจของผู้ต้องหา

พล.ต.ท.จิรสันต์  กล่างต่ออีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจที่ทั้งสองคนที่ร่วมลงทุนด้วยกัน เบื้องต้นทราบว่าเป็นธุรกิจที่ค้าขายสั่งสินค้ามาจากต่างประเทศและมาร่วมกันขาย อาจจะแบ่งเงินไม่ลงตัว จึงทำให้เป็นสาเหตุ

 

และถ้ามีข้อมูลที่ชัดเจนถ้าไม่ใช่เรื่องของธุรกิจ จะเป็นการจ้างวานฆ่า หรือเหตุผลอื่น ก็จะต้องดำเนินการสอบสวนสืบสวนหาพยานหลักฐานใหม่อีกครั้งจะไม่ทิ้งทุกประเด็นที่ทางสังคมได้สงสัย ซึ่งทางตัวต้องหาตอนนี้ หลังจากสอบปากคำรู้สึกสำนึกผิดและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางผู้ต้องหาอยากจะขอโทษทางคุณพ่อ และทางพ่อของผู้ต้องหาอยากจะออกมาขอโทษต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตการขอโทษสังคม