ครูร้องสายไหมต้องรอด ถูกทวงหนี้โหด-ตบประจานหน้าโรงเรียน
สาวอดีตครูพี่เลี้ยงอนุบาลร้องสายไหมต้องรอดถูก แก๊งเงินกู้นอกระบบ ยกพวกรุมตบถ่ายคลิปประจาน ล่าสุด ผบช.ภ.7 สั่งรวบยกแก๊ง
วันที่ 1 มิ.ย.67 เวลา 12.00 น.ที่ทำการเพจสายไหมต้องรอด นางสาวพัชรีอายุ 38 ปี อดีตครูพี่เลี้ยงชั้นอนุบาล ในจังหวัดราชบุรี นำหลักฐานคลิปภาพถ่ายร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีถูกเจ๊ฟ้าเจ้าแม่เงินกู้นอกระบบในจังหวัดราชบุรี พาสามีและพวกมารุมทำร้ายร่างกาย ไม่พอนำไปโพสต์ลงโซเชียลเพื่อประจานให้เกิดความอับอาย
นางสาวพัชรี เล่าว่า ได้กู้เงินมาจำนวน 10,000 บาท และได้ทยอยใช้หนี้มาโดยตลอด แต่หลังเกิดเหตุก็ถูกไล่ออกจากงาน ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อน จึงเข้าร้องสายไหมต้องรอดเพื่อขอความเป็นธรรม เพราะการกระทำของผู้ก่อเหตุไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมาย
โดยเมื่อช่วงต้นปี 2566 จนมาถึงเดือนก.พ.67 ที่ผ่านมาเธอได้ไปกู้กับเจ๊ฟ้า เป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท ต้องคืนทั้งต้นและดอกจำนวน 16,800 บาท คิดเป็นร้อยละ 30 ต่อเดือน ต้องส่งรายวันละ 280 บาทต่อวัน เธอได้ส่งเงินใช้หนี้อย่างดีมาตลอด จนมาเกิดปัญหาเงินหมุนไม่พอจึงไปขอกู้เป็นทองสองสลึงจากเจ๊ฟ้า เป็นจำนวนเงิน 25,800 บาท ซึ่งกำหนดต้องใช้อาทิตย์ละ 2,150 บาท เธอจ่ายไปแล้วจำนวน 4 อาทิตย์ ยังคงเหลือยอดหนี้ทอง เป็นจำนวนเงิน 8,700 บาท
และก่อนหน้านี้เธอยังเคยมีหนี้สินที่เคยไปกู้นางสาวนุ๊ก ผู้ที่ปรากฏในคลิปผมสีทองที่ร่วมทำร้ายร่างกายเธอ เธอกู้เงินจากนางสาวนุ๊ก มา6,000 บาทโดยต้องส่งดอกเบี้ยวันละ 1,200 บาท เนื่องจากเป็นเงินกู้ฉุกเฉิน และจะต้องส่งไปจนกว่าจะมีเงินต้น 6,000 บาทไปคืน
แต่ก่อนหน้านี้เธอได้ผ่อนหลายเดือนแล้ว จำนวนเงินที่เธอส่งไปเกินยอดหนี้ไปแล้ว และระยะหลังไม่สามารถหาเงินจ่ายหนี้ได้ นางสาวนุ๊กมาแนะนำให้กู้ผ่อนทองคำ 1 บาท จากนางสาวนุ๊ก เป็นจำนวนเงินกว่า 40,000 บาท และได้มีการถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ก่อนที่นางสาวนุ๊กจะหักเงินสดทันที 30,000 บาท ทำให้เธอมีเงินเหลือใช้หนี้แค่ 10,000 บาทเท่านั้น และยังต้องจ่ายดอกเบี้ยทองคำวันละ 1,260 บาท เป็นเวลา 60 วัน รวมต้องจ่ายหนี้ก่อนนี้ทั้งหมด 69,600 บาท
กระทั่งช่วงสายของวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ๊ฟ้าและนางสาวนุ๊ก พาพวก 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 คน รวมเป็น 5 คน โดยหนึ่งในนั้นมีสามีของเจ๊ฟ้า ทั้ง 5 คนบุกมาที่หน้าโรงเรียนที่เธอทำงาน ในขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่ ทางกลุ่มเจ๊ฟ้าเรียกให้ออกมาเจรจากัน เมื่อเธอมาถึงไม่มีการพูดคุยอะไรกัน โดยเจ๊ฟ้าปรี่เข้ามาตบ ซึ่งนางสาวนุ๊กก็เข้ามารุมตบด้วย ระหว่างนั้นมีผู้ชาย 2คน ยืนคุมเชิง และผู้หญิงทำหน้าที่ถ่ายคลิปวีดีโอไว้
เธอพยายาม ยกมือไหว้ขอร้องอย่าทำร้ายร่างกาย และจะผ่อนชำระหนี้ที่เหลือให้พร้อมบอกว่าไม่ได้หนีไปไหน ซึ่งระหว่างนั้นเจ๊ฟ้าพูดว่าจะถ่ายคลิปวีดีโอเอาไปประจาน หากยังไม่จ่ายหนี้ พร้อมยังบอกอีกว่า "มึงรู้จักกูน้อยไป" จนกระทั่งมีภาพที่ถูกทำร้ายร่างกายปรากฎในโซเชียล ซึ่งตอนนี้กังวลเรื่องความปลอดภัยไม่กล้าไปแจ้งความดำเนินคดี จึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด
ด้าน นายเอกภพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องการเป็นหนี้ และ เรื่องทำร้ายร่างกายถ่ายคลิปประจาน ซึ่งเรื่องหนี้นอกระบบนั้น รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตั้งคณะกรรมการไกล่เกลี่ยหนี้ และห้ามไม่ให้เจ้าหนี้ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหนี้อยู่แล้ว การบุกมาทำร้ายครูสาวถึงหน้าโรงเรียนและถ่ายคลิปประจาน ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ต้องถูกดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ส่วนหนี้สินที่ครูยังค้างชำระ ได้ประสานไปยังท่าน พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 และท่าน พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เพื่อขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้
ล่าสุดมีรายงานจาก ผบช.ภ.7 แจ้งว่าขณะนี้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และ ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ได้เชิญตัวผู้ก่อเหตุมาที่ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อเตรียมดำเนินคดีแล้ว หลังจากนี้ครูสาวผู้เสียหายจะเดินทางไป สภ.ราชบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ
ส่วนเรื่องหนี้สินที่ยังมีค้างอยู่ พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี จะประสาน นายอำเภอเมืองราชบุรี นำลูกหนี้และเจ้าหนี้เข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป ทั้งนี้หากพบว่าลูกหนี้ชำระหนี้เกินเงินต้นไปแล้วก็จะต้องยุติการชำระหนี้ด้วย