”เจ๊มด“ ภรรยา “เสี่ยต้น” ปิดปากเงียบไม่ตอบปมจ้างวานยิงผัว | คมชัดลึก

ชุดสืบสวนได้มีการคุมตัว “นางสาววรรณิภา  - เจ๊ มด” ภรรยาของเสี่ยต้น มายังที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดโดยเจ๊มด ได้มีการสวมหมวกแก๊ปสีดำ และใส่แมสปิดบังใบหน้า ระหว่างที่มีการคุมตัวขึ้นไปยังห้องสอบสวน 

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเจ๊มด ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เธอได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ จ้างวาน ฆ่าสามีหรือไม่ รวมถึงสาเหตุที่ต้องจ้างวานฆ่าสามีมาจากสาเหตุ และในวันที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าสื่อทำไมถึงต้องพูดโกหกด้วย โดยตัวของเจ๊มดนั้น เดินก้มหน้าและไม่มีการตอบคำถามใด ๆ กับสื่อเลย

รายงานข่าวแจ้งว่าจากการสอบปากคำนางสาววรรณิภา ไม่ขอให้ปากคำใด ๆ กับเจ้าหน้าที่การถามตอบอะไรไปก็เงียบให้การปฏิเสธเสียงแข็ง และถามตำรวจกลับมีหลักฐานอะไรบ้าง พร้อมจะสู้คดีและขอไปต่อสู้ในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาโดยยืนยันว่าหลักฐานทั้งหมดสามารถเชื่อมโยงไปถึงผู้จ้างวานฆ่า ทั้งพยาน บุคคล พยานแวดล้อม พยานวัตถุและพยานเอกสาร ที่เป็น หลักฐานการโอนเงินและหลักฐานการติดต่อสื่อสาร โดยในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเราพบว่าผู้จ้างวานฆ่าได้ติดต่อหามือปืนจากในโลกอินเตอร์เน็ตและเป็นคนติดต่อเองพร้อมกับใช้เวลาในการนัดหมายลงมือประมาณ 1 อาทิตย์ ซึ่งเรารวบรวมครบถ้วน ก่อนยื่นต่อศาลอาญาฯ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีได้ 

ขณะเดียวกันได้ควบคุมตัว นายวีรภัทร คนที่รับหน้าที่ขี่จักรยานยนต์ให้กับมือยิง เข้ามาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อคุมตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง 

โดยระหว่างที่มีการคุมตัวมา นายวีรภัทร ได้มีการสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ พร้อมได้มีการเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับเจ๊มด ภรรยาของเสี่ยต้น ไม่รู้ว่ามีการจ้างวานจากใคร แต่ยอมรับว่าเป็นคนที่ขี่จักรยานยนต์ให้กับมือยิงจริง ซึ่งตนเองไม่ได้ตั้งใจทำ เนื่องจากไม่ทราบว่าถูกว่าจ้างให้ไปขี่รถจักรยานยนต์เพื่อประกบยิงเสี่ยต้น เพราะในวันนั้น มีการว่าจ้างให้ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ไปตามหาแฟนสาวของมือยิง โดยตนเองได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 4,000 บาท 

นอกจากนี้ในวันที่ก่อเหตุจังหวะที่มือปืนลงมือยิงตนเองก็พยายามขี่รถจักรยานยนต์เบี่ยงออกเพื่อให้วิถีกระสุนไปทิศทางอื่น พอหลังจากที่เป็นข่าวตนเองก็มีความคิดที่อยากจะเข้ามอบตัวกับทางตำรวจ แต่ยังอยู่ในระหว่างปรึกษากับทางพี่ๆ ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวได้ในเช้าวันนี้ โดยนายวีรภัทร ยอมรับว่า ตนเองรู้สึกผิด และอยากขอโทษทางครอบครัวของเสี่ยต้น